“เมื่อเจออุปสรรคในชีวิต” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

ไม่มีวิกฤตใดๆ ที่มนุษย์จะไม่สามารถผ่านพ้นได้ ดังนั้น ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ซึ่งหากไม่ร้ายแรงจนถึงขั้นวิกฤตแล้ว จึงไม่ได้เหลือวิสัยที่เราจะแก้ไขได้ แต่ที่กลายเป็นปัญหาในการแก้ไขนั้น ก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่เวลาเจอกับปัญหาก็ตกอกตกใจ และมองดูปัญหาที่เล็กน้อยให้เป็นปัญหาใหญ่ไปหมด แทนที่เราจะนิ่งและตั้งสติ ค่อยๆ คิดอ่านแก้ไขหาทางออก การแก้ไขก็อาจจะง่ายกว่าที่เราคิดเสียอีก แต่นี่กลับตรงกันข้าม เรามักจะตื่นตระหนกตกใจจนเกินกว่าที่เราจะควบคุมสติได้ จึงทำให้เรามองไม่เห็นทางออกว่าเราจะต้องแก้ไขอย่างไร ทำให้เสียเวลา และเครียดอยู่กับปัญหาและอุปสรรคโดยไม่จำเป็น บางคนกว่าจะตั้งสติและควบคุมตัวเองให้กลับจากความตื่นตระหนกได้ก็ใช้เวลา จนปัญหาลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่งยากแก่การแก้ไขหนักเข้าไปอีก ซึ่งที่จริงแล้วถ้าเรานิ่งตั้งสติให้ดี ปัญหาทั้งหลายไม่ได้ยากเกินกว่าที่กำลังและสติปัญญาของมนุษย์จะแก้ไขได้

เจ้าเต่งสุนัขพันธุ์เฟรนช์บลูด๊อกที่ผมเลี้ยงไว้ที่บ้าน เจ้าเต่งชอบเปิดฝาขวด จะเป็นขวดอะไรก็ได้ ผมลองเอาขวดเปล่าหลายขนาดทั้งเล็กกลางและใหญ่ โยนให้เจ้าเต่งเปิดฝาขวด ผมจะปิดฝาให้แน่น เจ้าเต่งก็จะใช้อุปกรณ์เดียวที่มันมีอยู่คือปากกับฟัน ลงมือเปิดฝาขวดเหล่านั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ขณะที่พยายามเปิดฝาขวดอยู่นั้น ใครจะเอาอะไรมาหลอกล่อให้เจ้าเต่งเสียสมาธิยังไงๆ ไม่มีทาง เจ้าเต่งไม่สนใจและมุ่งมั่นใช้ปากเพื่อจะเปิดฝาขวดให้ได้เท่านั้น เจ้าเต่งหยุดก็ต่อเมื่อมันใช้ปากเปิดฝาขวดได้นั่นแหละ พอใช้ปากเปิดฝาขวดออกได้ เจ้าเต่งก็จะหยุดถอนหายใจแฮ่กๆ แล้วค่อยเดินละจากขวดไป เจ้าเต่งทำอย่างนั้นทุกครั้งที่เราโยนขวดเปล่าให้เปิดฝาขวด ถ้ายังเปิดไม่ได้ก็ไม่ยอมหยุด จนกว่าจะเปิดได้ถึงจะหยุดเป็นอย่างนี้จริงๆ

บทเรียนที่ผมได้จากเจ้าเต่งก็คือ แม้จะเป็นเพียงสุนัขที่มีเพียงปากแต่เจ้าเต่งก็มุ่งมั่นเปิดฝาขวดให้ได้ จะยากยังไงก็ไม่ยอมแพ้ ใช้ทุกทางที่มันจะเปิดฝาขวดให้ได้ สุดท้ายก็ทำได้สำเร็จ มนุษย์เราเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่มีอุปกรณ์ในตัวมากมาย ที่สามารถจะใช้แก้ปัญหาและอุปสรรคทั้งหลายได้ พระเจ้าทรงให้เรามีมันสมอง สติปัญญา มีมือมีเท้ามีปากและอะไรต่ออะไรอีกมากมาย ที่จะใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคทั้งหลายได้มากยิ่งกว่าสรรพสิ่งที่อยู่ในโลกนี้ เพียงแต่ขอให้เรามีความมุ่งมั่นมานะพยายามที่จะเดินหน้า เข้าสู้กับปัญหาหรืออุปสรรคทั้งหลายด้วยใจกล้า และปราศจากความหวั่นกลัวใดๆ ทั้งสิ้น คิดเสมอว่าอุปสรรคใดๆ ก็ตามมันคือขนมหวานที่สุดท้ายก็ต้องตกเป็นอาหารอันโอชะของเราเท่านั้นเอง ขอให้คิดเสียว่าอุปสรรคคือ อุปกรณ์ที่จะช่วยสร้างภูมิต้านทานและความแข็งแกร่งให้กับชีวิตเรา

ทุกครั้งที่เราผ่านพ้นปัญหานั้นๆ ได้หรือไม่ก็ตาม สิ่งที่เราจะได้รับก็คือ ประสบการณ์ที่ผิดหวังหรือสมหวัง เพื่อใช้เป็นพลังสำหรับจัดการกับปัญหาและอุปสรรคในก้าวเดินต่อไป บอกกับตัวเองว่าอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต เมื่อเกิดปัญหาเราก็เอาชนะปัญหาได้ ปัญหาจึงเป็นประโยชน์ต่อคนที่รู้คุณค่าของมัน และโดยการพึ่งในพระคุณและความรักของพระเจ้า พระองค์จะนำพาเราให้ผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคทั้งหลายได้

ดังพระวจนะที่ได้กล่าวว่าดังนี้ “พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัย และเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก ฉะนั้นเราจะไม่กลัว…” “แล้วในความทุกข์ยากของเรา เมื่อเราร้องทูลพระเจ้า พระองค์ทรงให้เขารอดจากความทุกข์ใจของเขา” (สดุดี 46:1-3, 107:19)

โดย : อาจารย์อำนวย  เรืองชาญ

นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”

องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง

Comments are closed.