เมื่อพูดถึง “ของขวัญ” เป็นสิ่งที่ผู้รับมีความสุขและความซาบซึ้งพึงพอใจเป็นที่สุด ยิ่งเป็นของขวัญที่ตรงกับความต้องการหรือตรงกับความชอบของผู้รับด้วยแล้ว เขาจะรู้สึกตื้นตันเป็นสุขกับผู้ให้และของที่ได้รับอย่างประทับใจที่ไม่มีวันลืม พูดถึงการให้ของขวัญส่วนมากก็จะเป็นการให้ในโอกาสที่สำคัญ เช่น วันเกิด วันแต่งงาน วันครบรอบต่างๆ ตลอดจนวันสำคัญในเทศกาลต่างๆ เช่น วันคริสต์มาสและวันปีใหม่ หรือไม่ก็จะให้ในโอกาสที่มีความสำคัญในด้านการงานหรือธุรกิจต่างๆ เนื่องในวันเปิดกิจการ สรุปแล้วก็ให้ได้ในทุกโอกาสในแต่ละปี ผู้คนมากมายได้ใช้เวลาและความพยายามเพื่อมองหาของขวัญที่ดีที่สุดให้ผู้คนที่รักในโอกาสพิเศษ และทุกคนต่างก็อยากจะได้รับความรู้สึกที่ดีๆ จากคนที่ได้รับของขวัญจากพวกเขา ยกตัวอย่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง เมื่อเธอได้รับของขวัญจากคุณพ่อคุณแม่ของเธอ เธอบอกด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขว่า “นี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุด ที่หนูเคยได้รับมาก่อน” ซึ่งของขวัญก็เป็นแค่ลูกหมาตัวน้อยเท่านั้น
เหตุผลที่ผู้คนมากมายให้ของขวัญนั้น ไม่ใช่เพราะอยากจะทำให้ผู้รับดีใจเท่านั้น แต่เพื่อเขาเองก็พลอยได้รับความรู้สึกดีๆ ที่ได้ให้ของขวัญแก่คนที่เขาได้ตั้งใจที่จะให้อีกด้วย ซึ่งก็ตรงกับพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ที่ว่า “การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ” (กิจการของอัครธรรมทูต 20:35) แน่นอนด้วยว่า ความสุขที่ได้จากให้จะมีมากขึ้นอีกถ้าผู้รับรู้สึกว่า ของขวัญนั้นมีคุณค่าแก่เขามาก ดังนั้น ถ้าเป็นอย่างที่ว่านี้แล้วคุณจะทำอย่างไร เพื่อการให้ของขวัญที่คุณจะมอบให้ใครสักคนหนึ่งนั้นจะทำให้ทั้งคุณและผู้รับต่างก็จะมีความสุขร่วมกันทั้งสองฝ่าย และถ้าคุณไม่สามารถให้ของขวัญที่ “ดีที่สุด” ได้ล่ะ คุณจะทำอย่างไร เพื่อที่จะแน่ใจว่าของขวัญที่คุณเลือกนั้นจะมีคุณค่าต่อผู้รับจริงๆ
แน่นอนว่า ทุกคนที่กำลังมองหาของขวัญสักชิ้น เพื่อใครคนหนึ่งที่มีความหมายสำหรับตนแล้ว เขาก็คงจะมองหาทางเลือกสิ่งที่เขาคิดว่า “ดีที่สุด” มากกว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุด และสิ่งนั้นก็ต้องเป็นของขวัญที่ถูกใจ และสร้างความสุขให้เกิดขึ้นแก่ผู้รับอีกด้วย เพราะไม่ว่าใครก็ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด และนำความสุขมาให้กับตนมากที่สุดอีกด้วย
ถ้าทุกอย่างที่คุณทำด้วยใจและความรักแล้ว คุณเองก็จะได้สิ่งที่ดีที่สุดเช่นกัน
โดย: อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง
