ธรรมชีวิตประจำวันพุธที่ 16 เมษายน 2025 “ผู้ให้”

ยอห์น 19:25-27 – พวกทหารได้กระทำดังนี้ ผู้ที่ยืนอยู่ข้างกางเขนของพระเยซูนั้น มีมารดาของพระองค์กับน้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของเคลโอปัส และมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นมารดาของพระองค์ และสาวกคนที่พระองค์ทรงรักยืนอยู่ใกล้พระองค์ จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า “หญิงเอ๋ย จงดูบุตรของท่านเถิด” แล้วพระองค์ตรัสกับสาวกคนนั้นว่า “จงดูมารดาของท่านเถิด” ตั้งแต่เวลานั้นมาสาวกคนนั้นก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ในบ้านของตน ณ จุดนี้พระเยซูไม่ทรงมีอะไรเหลืออยู่มากนักที่พระองค์ ชื่อเสียง เสรีภาพ และความปลอดภัยของพระองค์สูญเสียไปทั้งหมด สาวกของพระองค์กระจัดกระจายไป แม้แต่เสื้อผ้าของพระองค์ก็ถูกช่วงชิงไปจากพระองค์ แต่สิ่งหนึ่งยังเหลืออยู่ มารดาของพระองค์ยืนอยู่ที่ใต้กางเขนของพระเยซูพร้อมกับยอห์นสาวกของพระองค์ พระองค์ไม่ทรงต้องการให้ทั้งสองคนอยู่กับความทุกข์โศกของเขาเพียงลำพัง และดังนั้น พระองค์จึงทรงฝากฝังให้เขาดูแลกันและกัน ข้าพเจ้าสบายใจที่เห็นพระเยซูทรงให้ความห่วงใย เพื่อทำให้แน่ใจว่าทั้งสองมีพี่น้องผู้เชื่ออยู่เคียงข้างเขา…

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันอังคารที่ 15 เมษายน 2025 “ผู้ให้สัญญา”

ลูกา 23:39-43 – ฝ่ายคนหนึ่งในผู้ร้ายที่ถูกตรึงไว้จึงพูดหยาบช้าต่อพระองค์ว่า “ท่านเป็นพระคริสต์มิใช่หรือ จงช่วยตัวเองกับเราให้รอดเถิด” แต่อีกคนหนึ่งห้ามปรามเขาว่า “เจ้าก็ไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เพราะเจ้าเป็นคนถูกโทษเหมือนกันและเราก็สมกับโทษนั้นจริง เพราะเราได้รับสมกับการที่เราได้กระทำ แต่ท่านผู้นี้หาได้กระทำผิดประการใดไม่” แล้วคนนั้นจึงทูลว่า “พระเยซูเจ้าข้า ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จเข้าในแผ่นดินของพระองค์” ฝ่ายพระเยซูทรงตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่เจ้าว่า วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม” แม้กระทั่งบนกางเขนพระเยซูก็ไม่ได้ทรงมีความสงบสุขจากการถูกทำร้าย ชายสองคนที่กำลังจะเสียชีวิตพร้อมกับพระองค์ก็ตะโกนใส่พระองค์ (ดูมัทธิว 27:44) แต่จากนั้นชายคนหนึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจ เขาพูดกับชายอีกคนหนึ่งว่า “หยุดนะ เราสมควรกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเรา แต่ชายผู้นี้ไม่ได้ทำอะไรผิด” ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าเขาคิดเรื่องนั้นออกได้อย่างไร เขาเคยพบพระเยซูมาก่อนหรือเปล่าในตอนที่ทั้งสองคนยังเป็นอิสระอยู่ หรือเขากำลังตัดสินใจจากพฤติกรรมของพระเยซูบนกางเขน…

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2025 “ถูกทอดทิ้ง”

มัทธิว 27:46 – ครั้นประมาณบ่ายสามโมง พระเยซูทรงร้องเสียงดังว่า “เอลี เอลี ลามาสะบักธานี” แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย” พระคัมภีร์ตอนนี้ทำให้ข้าพเจ้าอยากจะปิดปากตัวเองและซ่อนหน้าของข้าพเจ้า พระบุตรของพระเจ้าจะทรงรู้สึกถูกพระเจ้าทรงทอดทิ้งได้อย่างไร แม้กระทั่งบนกางเขน และกระนั้น พระองค์ก็ทรงถูกทอดทิ้ง คุณสามารถได้ยินเสียงนี้ในถ้อยคำที่พระองค์ทรงเลือกใช้ นั่นคือ พระองค์ทรงตรัสว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์” ไม่ใช่ “พระบิดาของข้าพระองค์” พระเยซูกำลังทรงพูดในฐานะมนุษย์คนหนึ่งเหมือนเรา มนุษย์ที่รู้สึกถูกพระเจ้าทรงทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิง และพระองค์ทรงสะท้อนให้เห็นถึงความเหินห่างนั้นในพระนามที่พระองค์ทรงใช้ พระเยซูทรงอ้างอิงสดุดี 22 ซึ่งดาวิดเขียนขึ้นโดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์เมื่อหลายร้อยปีก่อน นี่เป็นคำบรรยายที่น่ากลัวว่าการที่พระเยซูทรงถูกตรึงนั้นมีสภาพอย่างไรด้วยคำพูดของพระเยซูเอง…

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันอาทิตย์ทางตาลที่ 13 เมษายน 2025 “ผู้มาเยือน”

ลูกา 19:37ข-38, 41-43ก, 44 – [เมื่อพระเยซูทรงลาเข้าไปในกรุงเยรูซาเล็มในวันอาทิตย์ทางตาล] เหล่าสาวกทุกคนมีความเปรมปรีดิ์… จึงเริ่มสรรเสริญพระเจ้าเสียงดังว่า “ขอให้ พระมหากษัตริย์ผู้ที่เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจริญ จงมีสันติสุขในสวรรค์ และพระสิริในที่สูงสุด”…ครั้นพระองค์เสด็จมาใกล้เห็นกรุงแล้ว ก็กันแสงสงสารกรุงนั้นว่า “โอ อยากให้เจ้า คือเจ้าเองรู้ในกาลวันนี้ว่า สิ่งอะไรจะให้สันติสุข แต่เดี๋ยวนี้สิ่งนั้นบังซ่อนไว้จากตาของเจ้าแล้ว ด้วยว่าเวลาจะมาถึงเจ้า เมื่อศัตรูของเจ้า… จะเหวี่ยงเจ้าลงให้ราบบนพื้นดิน กับทั้งลูกทั้งหลายของเจ้าซึ่งอยู่ในเจ้า และเขาจะไม่ปล่อยให้ศิลาซ้อนทับกันไว้ภายในเจ้าเลย เพราะเจ้าไม่ได้รู้เวลาที่พระองค์เสด็จมาเยี่ยมเจ้า” นั่นคงเป็นสิ่งที่ต้องดู พระเยซูทรงคร่ำครวญให้กับเยรูซาเล็มในขณะที่สาวกของพระองค์ชื่นชมยินดีและสรรเสริญพระเจ้า คนเหล่านั้นนิ่งเงียบหรือเปล่าโดยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้อยคำของพระเยซูบอกปัญหาให้เราทราบ นั่นคือ เยรูซาเล็มไม่รู้จักผู้มาเยือนของเธอ…

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันเสาร์ที่ 12 เมษายน 2025 “พระผู้ช่วยให้รอด”

มัทธิว 27:39ก, 40-44 – ฝ่ายคนทั้งปวงที่เดินผ่านไปมานั้น ก็กล่าวเหยียดหยามพระองค์ สั่นศีรษะเยาะเย้ย ว่า “เจ้าผู้จะทำลายพระวิหาร และสร้างขึ้นในสามวันน่ะ จงช่วยตัวเองให้รอด ถ้าเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้า จงลงมาจากกางเขนเถิด” พวกมหาปุโรหิตกับพวกธรรมาจารย์และพวกผู้ใหญ่ ก็เยาะเย้ยพระองค์ว่า “เขาช่วยคนอื่นให้รอดได้ แต่ช่วยตัวเองไม่ได้ เขาเป็นกษัตริย์ของชาติอิสราเอล ให้เขาลงมาจากกางเขนเดี๋ยวนี้เถิด เราจะได้เชื่อถือบ้าง เขาไว้ใจในพระเจ้า ถ้าพระองค์พอพระทัยในเขาก็ให้ทรงช่วยเขาเดี๋ยวนี้เถิด ด้วยเขาได้กล่าวว่าเขาเป็นพระบุตรของพระเจ้า” ถึงโจรที่ถูกตรึงไว้กับพระองค์ ก็ยังกล่าวคำหยาบช้าต่อพระองค์เหมือนกัน สังเกตคำพูดที่พวกศัตรูของพระเยซูใช้ เขาพูดว่า “ถ้าเจ้าเป็นบุตรของพระเจ้า” ถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำพูดเดียวกันกับที่มารใช้เมื่อมันกำลังทดลองพระเยซูในตอนเริ่มต้นพันธกิจของพระองค์ และในทั้งสองกรณีนี้มีจุดประสงค์เดียวกัน…

Continue reading