“และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรฝูงชนก็ทรงสงสารเขาทั้งหลาย เพราะพวกเขาถูกรังควานและไร้ที่พึ่งเหมือนฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยง”
พระเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงที่รัก พระคุณพระองค์ไม่สูญหาย ข้าไม่ขัดสนลำบากมากนัก เพราะทรงพิทักษ์รักษาไว้ พระองค์ทรงเลี้ยงดูประชากรของพระองค์ดุจเลี้ยงแกะ พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ในทุกรายละเอียดของชีวิต แต่ข้าพระองค์ผู้เป็นแกะของพระองค์เองที่มักจะหลงไปจากการทรงนำของพระองค์ หลงไปตามการล่อลวงของสุนัขจิ้งจอกหลงไปในกลลวงของหมาป่าและหลงไปติดตามทางของมารซาตาน ยิ่งไปกว่านั้นคือ ข้าพระองค์ทั้งหลายผู้เป็นประชากรแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์กลับปฏิเสธการเลี้ยงดูจากพระองค์หันไปพึ่งพาการตอบสนองของมารซาตานที่ได้ล่อลวงให้ข้าพระองค์หลงไปอยู่ในการดูแลและเป็นสมุนติดตามรับใช้มัน จนทำให้ข้าพระองค์ถูกรังควาน ถูกรังแก และถูกปล่อยให้กับเผชิญอันตรายแต่ลำพัง แต่โดยพระคุณความรักที่พระองค์ทรงมีต่อข้าพระองค์ผู้เป็นแกะและเป็นประชากรของพระองค์มิเสื่อมคลาย ด้วยความรักมั่นคงของพระองค์นั้นพระองค์จึงทรงติดตามหาข้าพระองค์ และทรงประทานพระเยซูพระบุตรของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อทรงนำข้าพระองค์กลับไปสู่การเป็นประชากรของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง เมื่อพระเยซูทรงมองมาที่ประชากรของพระองค์รวมถึงข้าพระองค์ พระองค์ทรงมีพระทัยเมตตาสงสารที่เห็นประชากรของพระองค์ถูกรังแกถูกรังควานไร้ที่พึ่งไม่มีผู้เลี้ยงที่ดี มีแต่ผู้เลี้ยงที่หวังเอาแต่ประโยชน์ของตนเองที่มีมารซาตานอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น พระองค์จึงทรงยอมสละพระองค์เองเพื่อนำการคืนดีและการกลับไปเป็นประชากรของพระเจ้าพระบิดาผู้สูงสุดอีกครั้งหนึ่ง โดยการทรงยอมสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อให้ข้าพระองค์ทั้งหลายกลับไปสู่ทางแห่งการเลี้ยงดู กลับไปสู่การปกป้องคุ้มครองของพระเจ้าพระบิดาผู้สูงสุดอีกครั้ง ขอบพระคุณพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าที่รัก ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงมีพระทัยเมตตาแก่ข้าพระองค์และทรงมีความรักอันมั่นคงดำรงเป็นนิตย์แก่ข้าพระองค์ พระองค์ทรงยอมสละพระเยซูพระบุตรของพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้กลับเข้าไปสู่การครอบครองกลับไปสู่การดูแลและการเลี้ยงดูของพระองค์ พร้อมกับการมีชีวิตใหม่ในพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ยิ่งนักสำหรับพระคุณซ้อนพระคุณที่พระองค์ทรงประทานแก่ข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์เป็นประชากรของพระองค์ทั้งในแผ่นดินโลกและในแผ่นดินของพระองค์…
