“ชีวิตที่อยู่ในอุ้งหัตถ์พระเจ้า”

เมื่อใดที่เราได้มอบชีวิตทั้งหมดให้กับพระเจ้าแล้ว เราไม่มีสิทธิ์ที่จะกำหนดชีวิตตามใจต้องการของเราอีกต่อไป เพราะพระเจ้าจะทรงเป็นผู้กำหนดชีวิตของเรา โดยพระเจ้าจะทรงดูแลทุกวิถีทางของชีวิตเรา เหมือนบิดาที่ดูแลลูกที่ตนรักอย่างไร พระเจ้าก็ทรงกระทำอย่างนั้นเช่นกัน                  ทุกก้าวเดินของเรานั้นจะมีคำตอบจากพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราตลอดเส้นทางเดินของชีวิต ซึ่งสำหรับลูกของพระองค์ทุกอย่างจะต้องอยู่ในกรอบที่ว่า “อะไรดีอะไรเป็นที่ชอบและอะไรยอดเยี่ยม” ซึ่งพระเจ้าจะทรงร่วมมือกับคนที่รัก และเชื่อฟังให้บังเกิด “ผลอันดี” นี่คือน้ำพระทัยแผนการของพระเจ้าที่มีต่อเราทุกคน                  ดังนั้น ชีวิตของผู้ที่รักพระเจ้าจึงต้องขึ้นอยู่กับ “ความเชื่อและความไว้วางใจ” ในพระเจ้าเป็นหลัก ซึ่งไม่ว่าอะไรทั้งดีหรือร้ายเกิดขึ้น อันเกิดจากความผิดพลาดที่บางครั้งเราเผลอตัวขาดความเชื่อฟัง พระเจ้าก็ให้โอกาส และนำพาเรากลับสู่เส้นทางของพระองค์ที่วางไว้สำหรับเราเสมอ                  หน้าที่ของเรานั้นจึงต้องเชื่อวางใจในพระสัญญาของพระเจ้าอย่างคงเส้นคงวา โดยปราศจากความสงสัย เพราะความสงสัยคือ ตัวทำลายความเชื่อที่จะทำให้เราเกิดความไม่มั่นใจหรือขาดความไว้วางใจ แม้จะเพียงเล็กน้อยก็มีผลกระทบต่อความเชื่อของเราได้เหมือนกัน…

Continue reading

“ถ้าไม่ลองทำจะรู้ได้อย่างไร”

  หลายครั้งที่เราลองผิดลองถูกอยู่บ่อยๆ เพราะคิดว่าสิ่งที่เรากำลังลองทำอยู่นั้นเป็นการมาถูกทางแล้ว แต่พอทำไปสักพักก็ชักไม่แน่ใจ แล้วเกิดความลังเลใจ แล้วก็บอกกับตัวเองว่าหากขืนเดินต่อไปจะพบความผิดหวังแน่นอนจึงตัดสินใจไม่เดินต่อไป ตอนนี้เองที่ความไม่มั่นใจจะเกิดขึ้น และก็ทำให้เกิดอาการขยาดกลัวไม่กล้าลองทำอีกครั้ง             ใครก็ตามถ้าชีวิตมาถึงจุดนี้อย่าเพิ่งตัดสินใจ ต้องทำใจให้หนักแน่นไว้อย่าให้มีความคิดใดๆ ที่จะทำให้เกิดการบั่นทอนความตั้งใจของเรา ให้กำลังใจตัวเองแม้จะเป็นการเข้าข้างตัวเองก็จำเป็นต้องทำ อย่าให้ความคิดใดๆ เข้ามาครอบงำเราได้             ให้ถือเสียว่าการหยุดเดินหน้าของเรามันเป็นแค่การปรับตัว เพื่อการเดินหน้าต่อไปสู่ความสำเร็จ ก็จะต้องลองอีกครั้งหรือหลายๆ ครั้ง ก็ต้องพร้อมที่จะลอง เพราะโอกาสยังมีสำหรับคนที่ต้องการจะลองอยู่เสมอ ถ้าหากโอกาสจะปิดก็คงเป็นตัวเราเองนั่นแหละที่จะปิดได้ การลองทำอีกครั้งไม่ได้เสียหายอะไร เพราะถ้าเราไม่ลองทำแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าประตูแห่งความสำเร็จสำหรับเราได้ถูกปิดไปเรียบร้อยแล้ว             อย่าผลีผลามรีบร้อนใดๆ ใช้ความนิ่งแล้วใคร่ครวญถึงสาเหตุที่ทำให้เราต้องหยุดในครั้งที่ผ่านมา พิจารณาใคร่ครวญถึงสาเหตุต่างๆ ที่พลาดพลั้งมานั้นเพื่อประเมินผลและปรับปรุงเพื่อการเริ่มต้นอีกครั้ง…

Continue reading

“มาอธิษฐานต่อพระเจ้าทุกเวลาและทูลมอบทุกสิ่งไว้ในพระทัยพระองค์กันเถิด”

พระวจนะของพระเจ้าสอนเราว่า ทั้งเวลาเช้า เวลาเย็น และเวลาเที่ยง ข้าพเจ้าร้องทุกข์และคร่ำครวญ และพระองค์จะทรงฟังเสียงของข้าพเจ้า เพลงสดุดี 55:17 สาธุการแด่พระเจ้าสูงสุด พระองค์ทรงพร้อมสดับฟังคำทูลอธิษฐานของทุกๆ คนที่เข้ามาถ่อมใจลงทูลต่อพระองค์ พระองค์มิทรงเบื่อหน่ายคำทูลเหล่านั้นเลย ข้าแต่พระเจ้า ในเวลานี้เช่นกันที่ชีวิตของข้าพระองค์มาถึงทางตันและไม่รู้ว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร หันไปทางไหนก็ไม่มีใครที่จะช่วยเหลือได้ โดยกำลังของข้าพระองค์ที่มีอยู่ก็ไม่สามารถกระทำการใดๆ ได้ ชีวิตของข้าพระองค์เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความหมดหวัง ข้าแต่พระเจ้า มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ทรงช่วยได้ มีเพียงพระองค์เท่านั้น ที่ทรงฟัง ทรงเข้าใจ และทรงพร้อมฉุดข้าพระองค์ให้ลุกขึ้นใหม่ ทรงประทานกำลังใหม่ ทรงประทานความหวังใจใหม่ในพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากความหมดหวัง ขอพระองค์ทรงโปรดเปิดหนทางและฉุดข้าพระองค์ขึ้นมาจากความสิ้นหวังด้วยเถิด กราบทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

Continue reading

“เก็บเกี่ยว”

แล้วพระองค์ตรัสกับพวกสาวกของพระองค์ว่า “ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่” (มัทธิว 9:37) “นี่แหละคนที่หว่านเพียงเล็กน้อยก็จะเกี่ยวเก็บได้เพียงเล็กน้อย คนที่หว่านมากก็จะเกี่ยวเก็บได้มาก” (2 โครินธ์ 9:6)             เกษตรกรมีหน้าที่ในการหว่านและภาระในการเก็บเกี่ยว เป็นภาระที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องด้วยใจและความรับผิดชอบ เพราะจะส่งผลไปถึงความสำเร็จทั้งการหว่าน และการเก็บเกี่ยวในวันหน้าอีกด้วย             ในทำนองเดียวกัน ผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระเยซูคริสต์เราทุกคนมีหน้าที่เป็น “กระบอกเสียง” ในการหว่านพระกิตติคุณ อันเป็นข่าวประเสริฐแห่งการรอดพ้นบาปของมวลมนุษย์ชาติผู้ตกอยู่ในความบาป เพื่อนำเขาเหล่านั้นกลับมาสู่ “ความสว่างแห่งชีวิตใต้ร่มพระคุณและความรักของพระเจ้าอีกครั้ง” ตามคำสั่งของพระเยซูคริสต์ก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับสู่สวรรค์ ไม่เพียงแต่จะต้องหว่านพระกิตติคุณเพียงอย่างเดียว แต่เรายังมีหน้าที่ในการ “เก็บเกี่ยว” ผลของการหว่านจนกว่าจะนำผู้หลงหายให้กลับเข้ามาอยู่ในร่มพระคุณของพระเจ้าได้สำเร็จ ภาระหน้าที่ของผู้หว่านและผู้เก็บเกี่ยวจึงจะเสร็จครบสมบูรณ์ ตามคำสั่งของพระเยซูคริสต์ที่ให้ไว้แก่เรา…

Continue reading

“มาอธิษฐานทูลขอพระเจ้าทรงยึดเราไว้ด้วยความรักมั่นคงของพระองค์กันเถิด”

พระวจนะของพระเจ้าสอนเราว่า เมื่อข้าพเจ้าได้คิดว่า “เท้าของข้าพลาด” ข้าแต่พระเจ้า ความรักมั่นคงของพระองค์ยึดข้าพระองค์ไว้ สดุดี 94:18 ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา พระผู้ทรงกรุณา ทรงกอปรด้วยพระคุณความรักอันมั่นคง ทรงกริ้วช้า และบริบูรณ์ด้วยความความสัตย์จริง ในเวลานี้ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตาระลึกถึงชีวิตของข้าพระองค์ทั้งหลายที่พลาดพลั้งหลงผิดไปในความผิดบาปต่อพระองค์และต่อพี่น้องทั้งหลาย เป็นเหตุให้ข้าพระองค์ต้องตกอยู่ในความทุกข์ใจกับความผิดในครั้งนี้ ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตาอภัยความผิดบาปและผิดพลาดเหล่านี้ด้วยเถิด ขอพระองค์ทรงนำความทุกข์ใจออกไปจากจิตใจของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงนำการคืนดีกันในพระองค์กลับมาสู่ข้าพระองค์ต่อพระองค์และต่อพี่น้องของข้าพระองค์ด้วยเถิด เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินอยู่ในความรักอันมั่นคงของพระองค์ต่อไป ทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

Continue reading