“ส่องกระจกดูเราเองบ้างไหม”
ใครเคยดูหนังเรื่อง “สโนวไวท์” บ้าง ในหนังเรื่องนี้ตอนหนึ่งแม่มดได้พูดกับกระจกวิเศษว่า “กระจกวิเศษบอกข้าเถิดใครงามเลิศในปฐพี” เมื่อไหร่ที่แม่มดอยากรู้ว่าใครเป็นอย่างไร ก็จะใช้กระจกวิเศษเป็นคำตอบให้เสมอ ทำให้คิดถึงพระวจนะธรรมตอนหนึ่งที่มีข้อความดังนี้ “ทุกคนจงสำรวจการกระทำของตนเอง จึงจะมีอะไรๆ ที่จะอวดได้ในตัวไม่ใช่เปรียบกับผู้อื่น” (กาลาเทีย 6:4) พระคำของพระเจ้าเป็นเหมือนกระจกวิเศษที่พระเจ้าให้เราใช้เพื่อสำรวจตัวเราเอง เพราะพระคำของพระเจ้าเป็นคำตอบที่จะสะท้อนความจริงให้เราเห็นชีวิตอย่างชัดเจน คนเรามักจะชอบสำรวจดูคนอื่นมากกว่าจะสำรวจตัวเอง อาจจะเป็นเพราะเรามองไม่เห็นตัวเองแต่มองเห็นคนอื่นได้ ดังนั้น เราจึงทำตัวให้เป็นเหมือนกระจกที่ไม่ได้รับเชิญ ทำหน้าที่เป็นเป็นกระจกตามใจชอบที่นึกอยากจะส่องดูใครก็ส่องตามใจต้องการ เสร็จแล้วก็มาสรุปตามความคิดความเข้าใจของตัวเอง อย่างนี้ต้องถามก่อนว่า กระจกของเรามันชัดเจนจริงไหมหรือเห็นแค่มัวๆ หรือว่ามันชัดเฉพาะที่เราอยากจะให้มันชัดเท่านั้น แล้วก็ตัดสินภาพที่เห็นตามความเข้าใจและตามมาตรฐานของเราเอง ถ้าหากเป็นอย่างที่ว่านี้ก็เท่ากับว่า เราไม่ได้ให้โอกาสคนอื่นส่องกระจกดูเขาได้แก้ตัวเลย เพราะปิดโอกาสเพื่อที่เราจะได้ตั้งตัวเองเป็นศูนย์กลางในการตัดสินในสิ่งที่ตาเราเห็นอย่างมีอคติ สำหรับพระเจ้านั้นพระองค์ทรงมองเราทุกคนที่จิตใจ ไม่ได้มองที่ร่างกายภายนอกของเรา…