“มาอธิษฐานทูลขอพระเจ้าทรงนำเราไปพบความอุดมสมบุรณ์ของพระองค์กันเถิด”

พระวจนะของพระเจ้าบอกเราว่า พระองค์ทรงนำเรามาที่นี่และประทานแผ่นดินนี้แก่เรา เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ เฉลยธรรมบัญญัติ 26:9 ข้าแต่พระเจ้า สำหรับพระองค์แล้ว พระองค์ทรงเป็นผู้นำที่ดีเลิศประเสริฐที่สุด เพราะพระองค์ไม่เพียงแต่นำเท่านั้น พระองค์ยังทรงปกป้องคุ้มภัย อีกทั้งดูแลเอาใจใส่ทั้งชีวิตและความเป็นอยู่ของประชากรของพระองค์เป็นอย่างดีเสมอ เพราะพระองค์ทรงประสงค์ให้ชีวิตของผู้ที่รักและเชื่อฟังพระองค์ทุกคนให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง ขอบพระคุณพระองค์ พระองค์เจ้าข้า เช่นกันในวันนี้และวันข้างหน้าขอพระองค์ทรงนำข้าพระองค์ในเดินไปในทางอันบริบูรณ์ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด ทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

Continue reading

“ความกลัว..ที่ต้องกลัว”

สิ่งที่หลอกหลอนชีวิตของมนุษย์ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ ความกลัว นับเป็นศัตรูตัวสำคัญของมนุษย์ทุกคน ไม่มีอะไรที่จะทำลายหรือทำร้ายมนุษย์ได้ผลมากที่สุดเท่ากับความกลัว เพราะเมื่อใดที่ความกลัวได้เกิดขึ้นกับเรา มันจะบั่นทอนกำลังใจ และตัดกำลังความคิดลดหย่อนสติปัญญาความเฉลียวฉลาดลงไป จนเรากลายเป็นคนที่ขาดสติความรู้ความสามารถที่มีอยู่ก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งกว่านั้นความกลัวทำให้มนุษย์ต้องยอมเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่เสรีภาพสุดท้ายก็ยอมตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเห็นและเกิดขึ้นมากมายที่ความกลัวสามารถทำให้คนถึงกับต้องฆ่าตัวตาย เพียงเพราะกลัวที่จะต้องเผชิญความยากลำบากและความทุกข์ทรมานในชีวิต             เป็นความจริงที่ว่า เราพยายามระแวดระวังภัยที่มาจากศัตรูภายนอกทำให้เราไม่ได้เฉลียวใจว่า ศัตรูที่ร้ายที่สุดของเราคือ ความกลัวที่อยู่ภายในใจของเราเอง ศัตรูอันเป็นภัยภายนอกจะทำอะไรเราได้ยากถ้าเราไม่กลัว เรามองเห็นและมีทางแก้ไขได้ เพราะตราบใดที่ความกลัวยังไม่ได้ทำลายกำลังใจและกำลังความคิดของเราแล้ว เราก็ยังสามารถจะหาทางต่อสู้ป้องกันหรือหลีกเลี่ยงศัตรูภายนอกได้ แต่ศัตรูที่อยู่ภายในใจของเราที่มองไม่เห็นจะทำให้เกิดความกลัวโดยไม่ทันรู้ตัว และก่อนที่จะรู้ตัวหรือตั้งตัวได้ ความกลัวดังกล่าวก็จะทำร้ายเราไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น สิ่งที่เราควรกลัวที่สุดก็คือ ความกลัวที่มาจากภายในตัวเรานั้นเอง             ในพระวจนะธรรมคัมภีร์ได้บอกถึงทางออก และการเอาชนะความกลัวทั้งหลายด้วยการพึ่งในพระคุณและความรักของพระเจ้า…

Continue reading

“มาอธิษฐานขอพระเจ้าให้ใจเราจดจ่ออยู่ที่พระบัญญัติของพระองค์กันเถิด”

พระวจนะของพระเจ้าสอนเราว่า เอเฟซัส 4:17 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอยืนยันและเป็นพยานในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปท่านอย่าประพฤติอย่างคนต่างชาติที่เขาประพฤติกันนั้น คือมีใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไร้สาระ ข้าแต่พระเจ้า ในพระองค์มีทุกสิ่งที่ครบบริบูรณ์ ทุกสิ่งของพระองค์ล้วนเป็นสิ่งดีมีคุณค่าสูงสุดต่อชีวิตและจิตวิญญาณ ข้าแต่พระเจ้า แต่ในหลายๆ ครั้งข้าพระองค์กลับให้ความสำคัญในสิ่งของของโลกนี้ ให้ความสำคัญกับทรัพย์สินเงินทอง ให้ความสำคัญกับลาภยศตำแหน่งและคำยกย่องสรรเสริญจากผู้คน พระองค์เจ้าข้า แต่สิ่งเหล่านี้กลับทำให้ข้าพระองค์มีความทุกข์ขาดสันติสุขแท้ในใจ ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ พระองค์เจ้าข้า ในเวลานี้ข้าพระองค์ทราบแล้วว่า มีเพียงในพระองค์เท่านั้นที่มีสันติสุขแท้ มีเพียงพระบัญญัติและคำสั่งสอนของพระองค์เท่านั้นที่นำข้าพระองค์ไปพบสันติสุขแท้ในชีวิต เพราะพระองค์ทรงให้ทุกคนที่จดจ่ออยู่ที่พระบัญญัติของพระองค์จะไม่ได้รับความอับอายแต่จะพบสันติสุขแท้ ขอพระองค์ทรงนำและให้ชีวิตของข้าพระองค์จดจ่อและดำเนินตามพระคำของพระองค์ทุกๆ วันได้ด้วยเถิด ทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

Continue reading

“ความหลังยังฝังใจ”

อดีตที่ฝังใจเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เรามักพบเจออยู่เสมอในชีวิต ความฝังใจที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่มีทั้งดีและร้าย ทุกข์หรือสุข โศกเศร้าเสียใจ เพราะการสูญเสียสิ่งที่ตนรัก หรือแม้แต่ความผิดพลาดล้มเหลวจากประสบการณ์ชีวิตในหนหลังที่ผ่านมา ใครก็ตามที่เคยมีอดีตหรือความหลังยังฝังใจติดแน่น จนสลัดให้หลุดพ้นไปจากชีวิตไม่ได้ ย่อมจะมีแต่ความทุกข์ที่เกาะติดตัว และเป็นความรู้สึกที่คอยหลอกหลอนเขาอยู่เสมอ ชีวิตที่ควรจะพัฒนาไปในทางที่มีความสุขก้าวหน้าไปสู่ความสดใสในชีวิตก็หยุดชะงักอยู่กับที่ ชีวิตก็จะจมปลักอยู่กับความผิดหวังเดิมๆ ซ้ำซากที่ยังเกาะติดตาติดใจอยู่อย่างไม่ลืมเลือน แม้อดีตแห่งความผิดพลาดหรือสูญเสียจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเก็บสิ่งนั้นเอาไว้ จึงยังคงเป็นสิ่งคาใจอยู่ไม่รู้ลืม ต้องหันกลับมาเริ่มหาวิธี ที่จะขจัดความหลังหรืออดีตแห่งความขมขื่นให้ออกไปจากชีวิตจิตใจของเราให้เร็วที่สุด เพราะเมื่อเหตุการณ์มันได้ผ่านไปแล้วก็เท่ากับว่าทุกอย่างจบลง แม้จะมีผลดีหรือร้ายอย่างไรมันก็คือจบ ลืมมันเสีย ปลอบใจ และให้กำลังใจตัวเอง พอทำใจได้แล้วก็เดินหน้าต่อ ใช้บทเรียนแห่งความหลังที่ฝังใจนั้นมาเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขในก้าวต่อไป อย่ายอมให้มันยังค้างคาใจโดยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ต้องบอกกับตัวเองว่า ความหลังในอดีตที่เลวร้าย มันเป็นเหมือนขยะสกปรก ที่ไม่สมควรจะนำมาเก็บเอาไว้ในใจของเรา…

Continue reading

“มาอธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้าเพื่อเราจะเข้าเฝ้าพระเจ้าได้อย่างสม่ำเสมอกันเถิด”

พระวจนะของพระเจ้าสอนเราว่า จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า ซึ่งปรากฏอยู่ในพระเยซูคริสต์เพื่อท่านทั้งหลาย 1 เธสโลนิกา 5 :17-18 ข้าแต่พระเจ้าพระบิดา ขอบพระคุณพระองค์ที่มิทรงเบื่อหน่ายคำร้องทูลอธิษฐานของข้าพระองค์ทั้งหลาย มากว่านั้นพระองค์ยังทรงมีพระทัยที่ทรงปรารถนาให้ข้าพระองค์ทั้งหลายเข้าเฝ้าเพื่อจะได้อธิษฐานทูลต่อพระองค์ในทุกๆ สิ่งและทุกๆ วันเวลา พระองค์เจ้าข้า ในเวลานี้ขอพระองค์ทรงประทานกำลังเรี่ยวแรงแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายที่จะสามารถเข้าเฝ้าและทูลอธิษฐานต่อพระองค์ได้อย่างสม่ำเสมอมิได้ขาด ขอพระองค์ทรงขจัดปัญหาและอุปสรรคนานาประการให้ออกไปจากชีวิตของข้าพระองค์ด้วยเถิด เพื่อข้าพระองค์จะเข้ามาอยู่ต่อหน้าและทูลพระองค์เสมอไป ทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

Continue reading