“ชีวิตเรียบง่าย..ไม่ใช่ยากไร้” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

อย่าได้ไปมองว่า คนที่แต่งกายง่ายๆนุ่งกางเกงขาสั้น เสื้อยืดคอกลมหรือใส่เสื้อม่อฮ่อมเก่าๆ แต่ไม่เคยแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมนั้น เขาจะต้องเป็นคนยากไร้ หรือมีความตระหนี่ขี้เหนียวอะไรนะครับ แต่ที่เขาแต่งกายดูง่ายๆสบายๆนั้นก็เป็นเพราะว่า เขาใช้ชีวิตเรียบง่าย ก็เลยหันมาใช้ชีวิตแบบนี้ คนเราชอบดูที่การแต่งกายเป็นตัวกำหนดฐานะความเป็นอยู่ของคน ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะจนหรือว่ารวยเสมอไป ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง ฐานะความเป็นอยู่ของเขาเรียกว่าอยู่ในระดับที่มีเงินทองใช้จ่ายอย่างสบาย เขาไปใช้ชีวิตที่สหรัฐอยู่พักหนึ่ง ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเขา เขาได้ชวนผมไปที่ฟลอริด้า โดยตั้งใจจะไปดูเรือยอร์ช ซึ่งฟลอริด้าเป็นแหล่งขายเรือยอร์ชสำหรับเศรษฐีมากมายหลายแห่ง วันนั้นผมแต่งตัวให้ดูดี เพราะกลัวว่าเขาจะดูแคลนเอา ส่วนเพื่อนผมใส่ขาสั้นเสื้อยืดสีขาวตัวหนึ่ง แถมใส่รองเท้าแตะฟองน้ำอีกด้วย เราไปที่ร้านขายเรือยอร์ชที่ใหญ่และหรูหราแห่งหนึ่ง.. คนขายฝรั่งมองดูเราอย่างไม่ไว้ใจ คงคิดว่ากระเหรียงมาจากไหน… มีลูกค้าใส่สูทอยู่สองสามคนในร้าน และมีคนขายคอยให้ความสะดวก แนะนำด้วยท่าทีที่เอาอกเอาใจ ส่วนเราสองคนไม่มีเซลล์แมนคนไหนมาให้คำแนะนำเลย พอลูกค้าใส่สูทเดินออกจากร้าน…

Continue reading

“ความเหงา” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

คุณเคยเหงาบ้างไหม? แน่นอนทุกคนก็เคยเหงาและคุ้นเคยความเหงา ด้วยกันมาแล้วทั้งนั้น  ความเหงาเป็นอยู่คู่กับมนุษย์มานานแล้ว  ตั้งแต่บรรพกาลจนถึงปัจจุบันกาล ทุกชีวิตเกิดมาก็เจอทันที เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทุกคน ความเหงาเกิดกับทุกเพศทุกวัย  จะเป็นเด็กหรือหนุ่มสาวคนชรา ต่างก็เจอและผ่านความเหงามาแล้วทั้งนั้น ต้องยอมรับว่า ทุกครั้งที่เราเกิดความเหงา มันบั่นทอนความรู้สึกที่ทำให้เกิดความอ้างว้าง เวิ้งว้าง โดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยว เหมือนกับว่าเราถูกปล่อยไว้กลางทะเลทราย หรือกำลังล่องลอยอยู่กลางท้องทะเล ที่มองเห็นแต่พื้นน้ำจรดแผ่นฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เราถูกทอดทิ้งไว้เพียงลำพังคนเดียว เผชิญกับปัญหาที่ต้องขบคิด จนเกิดความท้อแท้ หมดหนทางออกอย่างคนสิ้นหวัง และจะยิ่งหนักเข้าไปอีก ถ้าหากเราเก็บตัวอยู่คนเดียวเงียบๆ ตามลำพัง เพราะขาดเพื่อนไร้มิตรคอยปลอบใจ ยามที่เกิดความเหงาอย่างนี้ ต้องระวังอย่าให้มันแทรกเข้ามาในความคิดใดๆของเรา จนทำให้คุณเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ…

Continue reading

“อยู่อย่างปลอดภัย” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

บางครั้งเมื่อเรากำลังเดินอยู่ตามศูนย์การค้า หรือผ่านชุมชนแห่งความศิวิไลทั้งหลายนั้น  เราจะเกิดความรู้สึกบางอย่างแว๊บเข้ามา เป็นความรู้สึกคล้ายๆกับว่า เรากำลังเดินอยู่ท่ามกลางป่าดงดิบ ที่เต็มไปด้วยอันตรายจากสัตว์ร้ายนานาชนิด เป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะมีความอบอุ่นและปลอดภัย ต้องยอมรับวันนี้จะหาความปลอดภัยได้ยาก  ภัยสารพัดที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นได้ในทุกเวลาทุกสถานที่ไม่เว้นแต่ละวัน แม้แต่ในย่านชุมชนที่พลุกพล่านก็ไม่มีเว้น ทั้งๆที่เราคิดว่าสถานที่นั้นๆมีความปลอดภัย แต่ภัยอันตรายก็ยังเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน แล้วมันก็เกิดขึ้นอย่างแนบเนียนอีกด้วย ขนาดที่เราเองก็คาดคิดและตามไม่ทัน สรุปแล้วภัยอันตรายสารพัดเหล่านี้ จึงทำให้การดำรงชีวิตของเราเป็นไปด้วยความยากลำบากและหวาดระแวงซึ่งไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไร วันนี้เราจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทเป็นดีที่สุด อะไรที่จะทำให้เราอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องรอบคอบไว้ก่อน    อย่าไปคิดว่าเราคิดมากและวิตกหรือกลัวเกินไป ใครเขาว่ายังไงก็ช่าง  เราถือคติ ‘’กันไว้ดีกว่าแก้’’ กันไว้ก่อนเพราะหากแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน      แล้วการป้องกันนั้นดูจะง่ายกว่า “การแก้’’ เยอะ อีกอย่างให้เราดูแลตัวเองนั้นดีกว่าไปหวังพึ่งคนอื่น ไม่ยังงั้นเวลามีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวเกิดไปเจอคนประเภท…

Continue reading

“อย่าหนีปัญหา” (เชิญคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

ถ้าคุณเจอปัญหา กับเจอคนที่ชอบสร้างปัญหา คุณจะทำอย่างไร? ถ้าให้เลือกขอเลือกที่จะหลีกหนีคนที่ชอบสร้างปัญหาไว้ก่อน  จะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจ และไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับคนประเภทนี้ ต่างกับเมื่อเจอปัญหา อันนี้คงหนีไม่ได้ หนีคนก็พอจะหนีได้บ้าง แต่ถ้าจะต้องหนีปัญหาใดๆนั้น หนียังไงก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี หนีซ้ายก็จะไปเจอขวา หนีบนก็จะไปเจอล่าง หรือถ้าจะหนีก็จะมีแต่ผ่ายแพ้อย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นหากต้องเจอปัญหา ต้องหันหน้าเข้าสู้กับปัญหานั้นๆ เพื่อที่จะเอาชนะให้ได้ เพราะปัญหามีไว้ให้เราแก้ ไม่ใช่มีไว้เพื่อเราจะต้องพ่ายแพ้ต่อปัญหา  สิ่งแรกเมื่อเจอปัญหา อย่าไปตกอกตกใจ จะทำให้เราเสียกำลังใจ สติกระเจิงไปได้ง่ายๆ ตั้งสติให้นิ่ง รวบรวมกำลังใจที่มีอยู่ ยืนหยัดสู้กับปัญหาอย่างอาจหาญ และด้วยใจที่แน่วแน่ จะทำให้เราชนะได้ เร็วกว่าที่เราคิดเสียอีก หนทางเดียวของนักสู้ปัญหาก็คืออย่าได้หนีปัญหา…

Continue reading

“ต้องให้โอกาสกี่ครั้ง” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

เราควรจะให้โอกาส สำหรับคนที่จะเริ่มต้นกันใหม่..สักกี่ครั้ง? ตามหลักแล้ว เราก็คงจะต้องดูแลให้โอกาส ก่อนที่จะปิดโอกาสนั้น การจะตัดสินใจลงไป ต้องดูแต่ละกรณีไป เพราะไม่เหมือนกัน แต่ต้องให้โอกาส แม้จะต้องให้โอกาสหลายๆครั้งก็ตาม บางกรณีก็อาจให้เวลาและโอกาสมากหรือน้อยไม่เหมือนกัน บางคนทำอะไรผิดพลาดต่อเรา กว่าเขาจะสำนึกได้หรือคิดได้ จนกลับตัวกลับใจเป็นคนดีนั้น ก็ต้องใช้เวลาและโอกาสมาก หรือบางคนที่ล้มแล้วล้มอีก ถ้าจะให้โอกาสเพียงครั้งเดียวก็คงไม่พอมีเหมือนกันที่พูดว่า   “จะให้โอกาสอีกครั้ง” แต่พอไม่ได้ตามกำหนด เขาก็ปิดโอกาส ไม่ยอมให้โอกาสอีกเลย อย่างนี้ก็มีให้เห็นบ่อย การที่จะให้โอกาสใคร เพื่อแก้ไขในความพลั้งผิดใดๆ ถ้าหากเราจะเปิดกว้าง โดยไม่ได้กำหนดเวลา ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร ตรงกันข้ามกลับเป็นผลดีต่อคนที่เขาได้รับโอกาสจากเราด้วยซ้ำ เพราะเขาจะได้ไม่ต้องถูกกดดันในเรื่องกำหนดเวลา รวมทั้งเขาจะได้มีสมาธิและความตั้งใจในการใช้โอกาสที่ได้รับอย่างคุ้มค่า…

Continue reading