“มองโลกอย่างงดงาม”

ศาสนาจารย์มาโนช แจ้งมุขเขียนไว้ในหนังสือ “ร้อยแปดพันเก้า” เกี่ยวกับคนที่มองโลกอย่างงดงามไว้ดังนี้ เพื่อนผมคนหนึ่งชื่อสมชาย เป็นเจ้าของร้านอาหารที่มีอารมณ์ดีทุกเวลาและมองโลกในแง่ดี ทุกครั้งถ้ามีคนถามว่าชีวิตเป็นอย่างไร เขาจะตอบว่า “ถ้ามีแฝดอีกคนคงจะดีกว่านี้” ลูกน้องทุกคนก็รักในความเป็นผู้นำของเขา ใครมีปัญหาเขาจะอยู่ใกล้ๆ ปลอบใจ และชี้นำให้มองเห็นสิ่งดีจากเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้น วันหนึ่งผมอดสงสัยเรื่องนี้ไม่ได้จึงถามเขาว่า “มีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าถึงได้มีอารมณ์ดีอย่างนี้ตลอดเวลา” เขาตอบว่า “ทุกวันตอนเช้าข้าถามตัวเองว่าวันนี้จะเลือกเป็นคนอารมณ์ดีหรืออารมณ์ร้าย ข้าก็จะเลือกข้อหนึ่งทุกที ทุกครั้งที่เกิดปัญหาขึ้น ข้าก็มีสิทธิ์ว่าจะเลือกว่าตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์หรือจะเลือกที่จะเรียนรู้จากเหตุการณ์นั้นๆ ทุกครั้งที่มีใครบ่นให้ฟัง ข้ามีสิทธิ์ที่จะรับฟังคำบ่นหรือชี้ให้เห็นอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่ดีกว่า ข้าจะเลือกด้านดีของชีวิตเสมอ” ผมแย้งกลับไปว่า “แต่อะไรๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นนะสิ” เขาตอบว่า “ถูกต้องชีวิตคือการเลือก เมื่อเราตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป…

Continue reading

“การให้ ชีวิตที่เลือกได้”

เราคงจะได้ยินอยู่เสมอว่า “ถ้าเราอยากจะได้สิ่งใด จงมอบสิ่งนั้นให้แก่ผู้อื่นก่อน แล้วเราก็จะได้สิ่งที่เราต้องการเพิ่มมากขึ้นด้วย”             นั่นก็หมายความว่า เราให้ไปเพียงแค่หนึ่งแต่สิ่งที่จะได้รับกลับมากกว่าเดิมหลายเท่า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อชาวนาปลูกข้าวเขาต้องการผลผลิตมากขึ้น เขาต้องให้ผลผลิตนั้นกลับคืนให้ผืนแผ่นดินมากขึ้น แล้วเขาจะได้รับผลเพิ่มกลับมาอีกหลายเท่าด้วยเช่นกัน หรือเมื่อคุณต้องการรอยยิ้มจากคนอื่น คุณก็ต้องมอบรอยยิ้มให้กับคนอื่นก่อน หรือเมื่อคุณต้องการความรักจากคนอื่น คุณก็ต้องมอบความรักให้คนอื่นก่อนเช่นกัน และเมื่อคุณช่วยเหลือคนอื่น เขาก็จะช่วยเหลือคุณเป็นการตอบแทนเช่นกัน ขณะเดียวกันมีคนพูดว่า “เขาได้ให้มาตลอดชีวิต แต่ไม่เห็นจะได้รับอะไรตอบแทนเลย” คนที่พูดอย่างนี้ส่วนมากมักจะเป็นคนที่ให้เพื่อหวังสิ่งตอบแทน เมื่อการให้ของเขาไม่ได้รับอะไรตอบแทนกลับคืนเขาก็จะไม่ให้อะไรแก่ใคร เขาจะให้ก็ต่อเมื่อเขาจะได้ผลตอบแทนจากการให้ของเขาเท่านั้น             ตามหลักของการให้จากพระวจนะธรรมคัมภีร์ได้บอกไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า “จงให้โดยไม่ได้หวังผลตอบแทน” ซึ่งก็หมายความว่าเราต้องให้ด้วยใจรัก รักที่จะให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น และก็เป็นการให้ในสิ่งดีๆ…

Continue reading

“วิธีของพระเจ้า ที่ต่างจากมนุษย์”

เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นเพียงอุทาหรณ์เพื่อเปรียบเทียบถึงวิธีของพระเจ้านั้นดีกว่าวิธีของเรา เราเองไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ผลที่ตามมาล้วนแต่เป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าให้เราเกินกว่าจะเข้าใจได้             เรื่องอุทาหรณ์ดังกล่าวนี้มีอยู่ว่า ผู้รับใช้พระเจ้าท่านหนึ่ง กำลังอธิษฐานอยู่ทูตสวรรค์ได้มาปรากฏ ผู้รับใช้ก็อยากรู้ว่าวันๆ นั้นทูตสวรรค์ทำอะไรบ้าง จึงขอติดตามทูตสวรรค์ไปทุกที่ทูตสวรรค์ก็ยินยอม แต่มีเงื่อนไขว่าห้ามพูดและห้ามซักถามใดๆ ทั้งสิ้นผู้รับใช้ก็รับปากแต่โดยดี             ทูตสวรรค์พาไปบ้านแรกที่เป็นบ้านของคริสเตียนกำลังจัดงานเลี้ยง เขาเห็นทูตสวรรค์ขโมยถ้วยทองคำจากบ้านหลังนั้นโดยไม่มีใครมองเห็น ผู้รับใช้ก็ตกใจว่าทำไมทูตสวรรค์ทำแบบนี้แต่ไม่กล้าถาม ทูตสวรรค์พาไปอีกที่หนึ่งเป็นถ้ำของพวกโจร ทูตสวรรค์ได้เอาถ้วยทองคำที่ขโมยมาจากบ้านแรกวางไว้ในถ้ำพวกโจร เมื่อโจรกลับมาดีใจมาก ผู้รับใช้ที่ติดตามไปด้วยชักไม่พอใจ มีข้อสงสัยในใจ “ทำไมทูตสวรรค์ทำแบบนี้ สงสัยไม่ได้ทำตามที่พระเจ้าสั่ง” แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะได้สัญญาไว้ ทูตสวรรค์ก็ได้พาผู้รับใช้ไปแห่งที่สาม เป็นกระท่อมของชายชรายากจน ทูตสวรรค์ปรากฎตัวเป็นหญิงสาว ให้ผู้รับใช้ปรากฏตัวเป็นเด็ก ชายชราพอเห็นผู้หญิงและเด็กมาก็ขอให้เฝ้าบ้านให้ตน…

Continue reading

“ยกตัวเองขึ้น อย่าลดคนอื่นลง”

อาจารย์สอนยูโดชาวญี่ปุ่นวัยอาวุโสคนหนึ่ง ชวนลูกศิษย์หนุ่มชาวจีนเดินคุยไปตามชายหาดในยามเย็น ช่วงหนึ่งของการสนทนาอาจารย์ใช้ไม้เท้าขีดเส้นคู่ขนานลงไปบนผืนทรายขาวละเอียด เส้นหนึ่งยาวประมาณ 5 ฟุต และอีกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 3 ฟุต แล้วก็พูดกับลูกศิษย์ว่า “เธอลงทำให้เส้นที่ยาวสามฟุตให้ยาวกว่าเส้นที่ยาว 5 ฟุตให้อาจารย์ดูหน่อยสิ” ศิษย์หนุ่มชาวจีนหยุดคิดพินิจจุดทั้งสองครู่หนึ่งแล้วก็เผยยิ้มเหมือนกับว่าเขาค้นพบคำตอบ เขาบรรจงใช้เท้าข้างหนึ่งลบรอยเส้นที่ยาวที่ยาวประมาณ 5 ฟุตนั้นให้สั้นลงจนเหลือนิดเดียว ซึ่งทำให้เส้นที่ยาวประมาณ 3 ฟุตนั้นโดดเด่นและดูยาวขึ้นมาแทน ลบเสร็จแล้วก็เงยหน้าสบตากับอาจารย์อย่างภูมิใจพลางขอความเห็น “ใช้ได้หรือยังครับ” ผู้เป็นอาจารย์ใช้ไม้เท้าเคาะหัวลูกศิษย์เบาๆ หนึ่งที ก่อนจะบอกว่า “หากใช้วิธีนี้ชีวิตเธอก็จะมีแต่ความล้มเหลว รู้ไหมคนที่คิดจะยกตัวเองให้สูงขึ้นโดยการทำร้ายคู่แข่งหรือคนอื่นนั้นไม่ใช่วิธีที่ฉลาดเลย ทางที่ดีควรจะยกตัวเองขึ้นแต่อย่าไปลดขึ้นอื่นลง” ว่าแล้วอาจารย์ก็ขีดเส้นทั้งสองใหม่ สาธิตวิธีโดยการปล่อยให้เส้นที่ยาว…

Continue reading

“อยากลืม..กลับจำ”

เป็นเพลงฮิตในอดีตที่มีสาระที่ดีมากสำหรับคนที่เคยมีความหลังหลายๆ เรื่อง ที่มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดีผ่านเข้ามาในชีวิต และก็ผ่านไป บางเรื่องที่ดีเราก็อยากจะจดจำเอาไว้ เพื่อเป็นความรู้สึกดีๆ ตลอดไป แต่เรากลับลืมไปง่ายๆ แต่ในทำนองเดียวกันเรื่องที่เลวร้ายทำให้เราเจ็บปวดนั้นเราอยากจะลืมมันเสีย ไม่อยากจะให้มันฝังใจเราอีกต่อไป แต่เรากลับจำไม่เคยลืม เพราะทำใจยากจนทำให้ลืมยากไปด้วย บางทีเรากำลังจะตัดใจลืมสิ่งไม่ดีนั้นอยู่แล้ว แต่พอไปเจอสิ่งที่เคยเกิดกับเราอีกก็เลยทำให้เรากลับไปคิดถึงมันอดีตที่ผ่านมาอีก แม้จะผ่านไปนานอย่างไรมันก็ยังกลับมาหลอนเราอีก เมื่อเป็นดังนี้ก็เลยทำให้เราอยู่ในสภาพของคน “อยากลืมกลับจำ” ไป             ส่วนบางคนพบเจอประสบการณ์ชีวิตที่ดีๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตก็อยากจะเก็บเอาไว้ในความทรงจำ แต่สุดท้ายก็กลับลืมไปเสียสนิท ขนาดบางคนนั้นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้เขาประสบความสุขความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะลืม แต่เขาก็ยังลืมได้ ทั้งๆ ที่อยากจะจดจำเอาไว้ก็ตาม แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างนี้ทุกคนนะครับ            …

Continue reading