“ขอพระองค์ทรงหันมายังข้าพระองค์ และมีพระกรุณาต่อข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ว้าเหว่ และเป็นทุกข์อยู่”
พระเจ้ามิได้ทรงประทานความว้าเหว่ให้กับเราทั้งหลาย ในครั้งแรกที่พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงสร้างคู่อุปถัมภ์ อีกทั้งทรงเสด็จมาดำเนินไปร่วมกับพวกเขาทุกวัน แต่มนุษย์เองกลับเลือกออกไปจากการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระองค์หันไปติดตามการล่อลวงของมารซาตาน จนในที่สุดก็ถูกตัดขาดจากพระเจ้า และถูกทอดทิ้งจากมารในที่สุดเมื่อหมดประโยชน์ให้มัน เป็นเหตุให้เราทั้งหลายรู้สึกถึงความว้าเหว่ อ้างว้าง โดดเดี่ยว เดียวดาย เป็นผู้ถูกทอดทิ้งอย่างน่าสมเพช ไม่มีความโศกเศร้าใดที่ครอบงำจิตใจได้มากไปกว่าความคิดที่ว่าเราอยู่คนเดียวในโลก เราไม่มีเพื่อน ไม่มีใครห่วงใยเรา ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับเรา หรือไม่มีใครสนใจถ้าเราจะต้องตาย ซึ่งดาวิดได้สะท้อนภาพให้เราได้เห็นถึงความจริงนี้ ไม่มีใครรู้สึกเหงาได้มากไปกว่าดาวิด ในการวิงวอนต่อพระเจ้าอย่างจริงจังและจริงใจ ดาวิดร้องออกมาด้วยความอ้างว้างและสิ้นหวัง ลูกชายของเขาเองลุกขึ้นต่อต้านเขา คนอิสราเอลไล่ตามเขา และเขาถูกบังคับให้หนีออกจากเมืองรวมทั้งทิ้งบ้านและครอบครัวของเขา ด้วยความโดดเดี่ยวและเป็นทุกข์อยู่นั้น หนทางเดียวของเขาคือ การหันไปหาพระเจ้า วิงวอนขอพระเมตตาและการแทรกแซงจากพระเจ้า เพราะความหวังเดียวของเขาอยู่ในพระเจ้า ข้าแต่พระเจ้าที่รัก…





