“ท่านจงอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่ เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า เราจะไม่ละท่าน หรือทอดทิ้งท่านเลย”

พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของสรรพสิ่งทั้งปวงในโลกไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สมบัติและเงินทองและอื่นๆ พระองค์ทรงประทานแก่มนุษย์เพื่อก่อเกิดประโยชน์ในการดำเนินชีวิต แต่ผู้คนจำนวนมากได้ยกย่องเงินทองให้เป็นพระเจ้าของพวกเขา ทั้งที่สิ่งเหล่านี้มาจากพระเจ้าและพระองค์ทรงเป็นเจ้าของที่แท้จริง เงินเป็นเพียงสิ่งที่มนุษย์ยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ และใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โดยมีหน้าที่หลักคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เป็นหน่วยวัดมูลค่า และเป็นเครื่องรักษามูลค่าเท่านั้น แต่ผู้คนกลับรักเงินทองมากกว่ารักพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของ หลายคนคิดว่าเงินคือคำตอบของทุกสิ่งในชีวิต แต่ความจริงพระเจ้าต่างหากที่จำเป็นที่สุดสำหรับชีวิตทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณที่หลายคนได้ลืมความจริงนี้ไป เพราะเงินไม่สามารถให้ชีวิตได้ ไม่สามารถต่อชีวิตให้ยาวขึ้นได้แม้เพียงคืบเดียวเมื่อพระเจ้าทรงกำหนดวันเวลาแห่งชีวิตของผู้นั้นไว้แล้ว และเงินไม่สามารถซื้อหรือแลกเปลี่ยนกับชีวิตนิรันดร์และแผ่นดินสวรรค์ได้ไม่ว่าจะมีเงินมากมายสักเพียงใดก็ตาม แต่พระเจ้าทรงประทานชีวิตนิรันดร์ ทรงประทานที่อยู่บนแผ่นดินสวรรค์ และยังทรงสามารถยืดชีวิตของมนุษย์ในโลกให้ยาวออกไปได้ตามพระเมตตาและพระประสงค์ของพระองค์ได้โดยไม่ต้องใช้เงิน มีเพียงความเชื่อและความไว้วางใจในพระองค์เท่านั้นเป็นพอ ข้าแต่พระเจ้า ในทุกๆ วันนี้ผู้คนต่างให้ความสำคัญกับการมีเงินจนหลงลืมความจริงว่าเงินไม่ใช่คำตอบแห่งชีวิต แต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงเป็นคำตอบแห่งชีวิต ขอพระองค์ทรงเมตตานำจิตใจนำความคิดของข้าพระองค์ด้วยเถิด อย่าให้ข้าพระองค์เป็นคนที่เห็นแก่เงินจนลืมพระองค์ แต่ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์จดจำและระลึกได้อยู่เสมอว่า การมีพระองค์อยู่ในชีวิตนั้นก็เพียงพอและมีค่ามากกว่าสิ่งใดๆ…