“ความรักมั่นคงของพระเจ้า” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

ในพระธรรมสดุดี 145:8-9 กล่าวไว้ดังนี้

“พระเจ้าทรงพระเมตตากรุณา ทรงกริ้วช้า และมีความรักมั่นคงอย่างอุดม พระเจ้าทรงดีต่อทุกคน และความรักเอ็นดูของพระองค์ มีอยู่เหนือพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์ ”

ทุกครั้งที่พูดถึงความรักมั่นคงของพระเจ้า ทำให้นึกถึงเพลงที่เคยร้องกันอยู่เสมอๆ ร้องกันจนขึ้นใจ เนื้อเพลงมีดังนี้ “ ความรักมั่นคงของพระเจ้าไม่เคยยั่งหยุด พระเมตตาคุณหลั่งลงมาอยู่สมอ.. ใหม่ทุกเช้า เร้าในดวงใจ ซาบซึ้งทุกๆวันใหม่ พระองค์ทรงความเที่ยงตรงยิ่งนัก พระองค์ทรงความเที่ยงตรง”   ร้องกันจนเพลงบทนี้กลายเป็นสิ่งที่ฝังลึกอยู่ในชีวิตจิตใจไม่มีลบเลือน  เมื่อเราพูดถึง “พระเจ้า” เราก็นึกถึง “ความรัก” เป็นสิ่งแรก เพราะนิยามของพระเจ้าก็คือ “ พระเจ้าทรงเป็นความรัก ” พระเจ้าทรงเป็นและคือความรัก ทรงเป็นแหล่งเดียวอันเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก และความรักที่อยู่ในมวลมนุษย์ทั้งหลายก็มาจากพระเจ้าเช่นกัน และแน่นอนความรักอันเป็นตัวตนของพระเจ้านั้น พระองค์ได้สำแดงให้ประจักษ์ มาตั้งแต่การเนรมิตสร้างฟ้าจักรวาล และโลกนี้ จนกระทั่งการเนรมิตรสร้ามนุษย์คู่แรก ความรักของพระเจ้าได้สำแดงอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ในทุกสถานการณ์ ทุกยุคทุกสมัย จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

หลักฐานที่ปรากฏยืนยันในพระคริสต์คัมภีร์ มากมายหลายตอนได้ยืนยันว่า ไม่มีความมั่นคงใดๆ ในโลก และจักรวาลนี้ ที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับความรักที่มั่นคงยั่งยืนไม่เคยเปลี่ยนแปลงของพระเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นความสูงความลึก ความยาวหรือความกว้างทั้งหลาย ไม่สามารถเทียบได้ แม้แต่เพียงครึ่งเดียว ต่อความรักความมั่นคงของพระเจ้าได้ พระเจ้าทรงสำแดงให้เราได้เห็น ความรักอันมั่นคงของพระองค์ในทุกสิ่ง โดยที่ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความรักของพระเจ้าที่มีต่อเราทุกคนได้เลย ทรงอดกลั้นอดทนต่อความดื้อรั้นของมนุษย์ ด้วยพระเมตตา ทรงกริ้วช้า ที่เต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูอย่างมั่นคง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ประจักษ์อยู่ในทุกพระราชทั้งสิ้นของพระองค์ โดยไม่มีเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น.. จนกระทั่งแผนการแห่งความรัก ที่นำไปสู่การไถ่มนุษย์ได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่งได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์

แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปนานสักเท่าใดก็ตาม ความรักมั่นคงของพระเจ้า ไม่มีวันเปลี่ยนแปรเป็นอื่น ดังพระวจนะธรรมได้ยืนยันไว้ดังนี้ “ ข้าแต่พระเจ้า ความรักมั่นคงของพระองค์อยู่ในฟ้าสวรรค์ ความสัตย์ซื่อของพระองค์ไปถึงเมฆ..” สดุดี 36:5

“องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ แต่พระองค์ได้ทรงอดกลั้นพระทัยไว้ เพราะเห็นแค่ท่านทั้งหลายมาช้านาน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ที่จะให้ ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่ ” (2เปโตร 3:9)

โดย : อาจารย์อำนวย  เรืองชาญ

นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”

องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง

Comments are closed.