“อย่าถอยก่อนจะถึง”

ผมไปเจอข้อคิดนี้โดยบังเอิญ เขาเขียนไว้น่าสนใจครับ มีข้อความประโยคสั้นๆ “พอใกล้จะถึงฝั่งก็หยุดเสียดื้อๆ หากใครไม่ท้อ ขอจงสู้ต่อไป”

            คนที่เป็นนักสู้ชีวิตมากมาย คงเคยผ่านประสบการณ์ดังกล่าวนี้มาแล้วทั้งนั้น แต่อยู่ๆ มีบางคนทุ่มเทชีวิตทั้งแรงกายและแรงใจเพื่อทำงานบางอย่าง และก็กำลังไปได้ดีแต่อยู่ๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหมดแรงเอาดื้อๆ มาตกม้าตายเอาตอนที่กำลังจะถึงฝั่งอยู่พอดี

            ถ้าเป็นอย่างนี้น่าเสียดายครับ เสียดายเวลาที่ได้ทุ่มเทเต็มที่ เสียเงินเสียแรงกายใจที่ได้ทำงานนั้นๆ จนหมดสิ้น ไปไม่ถึงฝั่งทุกอย่างจึงสูญเปล่า หากจะต้องเริ่มต้นใหม่ก็ต้องย้อนกลับไปนับหนึ่งใหม่อีก แต่ถ้าหากเราหยุดในตอนที่ยังห่างไกลจากฝั่งก็ยังพอที่จะทำใจได้ แต่นี่มันใกล้ฝั่งแค่มือเอื้อมเท่านั้นเอง เสียดายที่ความเป็นจริงความสำเร็จอยู่เพียงแค่คว้ามือถึงเท่านั้น

            หากจะพูดไปก็คงจะเหมือนกับนักว่ายน้ำคนหนึ่งกำลังว่ายเต็มกำลัง กองเชียร์ก็เชียร์กันสนั่นว่ายผ่านไปหลายรอบ พอถึงรอบสุดท้ายเหลือแค่ครึ่งสระก็จะเข้าสู่เส้นชัยกลับหมดแรงเอาดื้อๆ สาเหตุก็เพราะขาดลูกฮึดเลยหยุดไปดื้อๆ ยังงั้นแหละ

            คนที่แพ้ในลักษณะนี้ส่วนมากไม่ได้เกี่ยวกับแรงกายเลย แต่ที่แพ้เพราะขาดแรงใจเสียมากกว่า ดังนั้น สำหรับการสู้ชีวิตนั้น เราจะต้องพร้อมใน 2 สิ่ง คือแรงกายและแรงใจ ทั้งสองอย่างนี้เราใช้เป็นพลังชีวิตในทุกสถานการณ์ของการก้าวเดินขาดไม่ได้ครับ มีบางคนทุ่มเทใช้แรงกายเพียงอย่างเดียวพอแรงกายหมดก็จบหมดทุกอย่างเพราะไม่มีตัวเสริมมาช่วย หรือบางคนใช้ทั้งแรงกายแรงใจพอหมดก็หมดไปพร้อมๆ กัน น่าเสียดายครับ

            ในเวลาวิกฤตเช่นที่ว่านี้เราจะตัดสินใจอย่างไร ต้องคิดอย่างนี้ครับ ถึงแม้เราจะขาดปัจจัยสำคัญต่อการที่จะเดินต่อไปก็ตาม แต่เรายังยืนอยู่ได้ยังมีลมหายใจ มีสติปัญญา และมีประสบการณ์ที่เพิ่มเข้ามาเสริมจากความผิดพลาดที่เราเพิ่งจะได้รับ ทั้งหมดนี้ไม่ได้หายไปไหนยังอยู่กับคุณ และพร้อมที่จะช่วยให้คุณได้ลุกขึ้นเพื่อก้าวเดินต่อไปอีก ถ้าคุณตัดสินใจว่าคุณยังมีกำลังพร้อมและยังไหว การที่เรามีกำลังใจนั้นจะเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญต่อการเดินหน้าต่อไป

            ผมเองก็เคยย้ำเสมอว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นผู้ชนะ ไม่ใช่ผู้แพ้อย่างที่เข้าใจ ทุกความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนำมาเป็น “บทเรียน” เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเดินหน้าต่อไป อย่าท้อกับภาพลวงตาทั้งหลายที่มันจะทำให้คุณเกิดความไม่มั่นใจในการที่จะเดินหน้าต่อ

            จำไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คุณคือคนที่พระเจ้าได้กำหนดไว้ให้เป็นผู้ชนะไม่ใช่ผู้แพ้ ผมอยากฝากพระธรรมหนุนใจจากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ดังนี้

            “อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร” (กาลาเทีย 6:9)

โดย: อาจารย์อำนวย  เรืองชาญ

นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”

องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง

Comments are closed.