“ใช้เวลาให้คุ้มค่า”

ทุกคนต่างก็มีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน ซึ่งเราก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดทำภารกิจสารพัดทั้งส่วนตัวและส่วนรวม

            แต่เคยคิดบ้างไหมว่าตลอด 24 ชั่วโมงที่มีอยู่นั้น เราได้ใช้ให้คุ้มค่ากับเวลาที่เราได้รับหรือไม่? ใช้เพื่อเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและคนอื่นๆ มากน้อยแค่ไหนอย่างไร? ใช้เพื่อเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและต่อคนอื่นๆ มากน้อยแค่ไหน อย่างไร? ถ้ายังมองข้ามเรื่องนี้อยู่ อยากให้หันมาลองหาวิธีจัดการบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าดูบ้าง เพื่อเราจะได้เห็นคุณค่าและความสำคัญของเวลาที่เราได้รับ แล้วจะช่วยประเมินผลการงานของเราว่า ในแต่ละวันนั้นเราได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันบ้าง วิธีใช้เวลา 24 ชั่วโมงของแต่ละวันให้เกิดผลคุ้มค่า ดังนี้

            สิ่งแรกใช้เวลาทุกวินาทีให้มีประสิทธิภาพอย่างมีคุณค่า แม้จะเป็นเพียงเศษของเวลาก็ตาม ฝึกฝนทำภารกิจที่หลากหลายพร้อมกัน เพื่อให้เกิดความช่ำชองและคล่องตัว ทั้งยังช่วยในการฝึกความสามารถของเราต่อการทำหลายๆ อย่างพร้อมกันได้อีกด้วย

            และสิ่งสุดท้ายถ้าหากว่าการทำภารกิจหลายๆ อย่างพร้อมกันไม่ใช่สิ่งที่เราถนัด ต้องตัดสินใจทำให้เสร็จโดยเร็ว อย่าทิ้งค้างไว้เพียงเพราะมันมีมากเกินไปสำหรับเรา ถ้าทำได้อย่างที่ว่านี้จะช่วยให้เราใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่าและเวลาได้ตามที่ต้องการ แล้วเรายังมีเวลาที่เหลืออยู่พอที่จะทำภาระกิจอย่างอื่นได้อีกด้วย โดยไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย

            วิธีที่ว่านี้มีผู้ใช้ได้ผลมาแล้วมากมาย ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นคนที่มีความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น หนึ่งในนั้นก็มีนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่งซึ่งเขาบอกว่า เริ่มแรกเขาจะกำหนดเวลาเผื่อไว้สำหรับการทำงาน โดยไม่ได้คำนึงถึงเวลาว่าจะใช้เวลาเท่าไรแต่ดูตัวงานที่เขาจะทำเป็นหลัก แต่เมื่อเขาคิดแบบใหม่ หันหน้าใช้วิธีกำหนดเวลาของการทำงาน แต่ละชิ้นว่าควรใช้เวลาให้พอเหมาะกับงานชิ้นนั้นๆ ผลปรากฏว่าการกำหนดเวลาไว้เป็นหลักสำหรับงานชิ้นนั้น เมื่อเสร็จแล้วเขายังมีเวลาเหลือสำหรับงานชิ้นใหม่ได้อีก

            นี่จึงเป็นบันไดแห่งความสำเร็จของผู้ที่ค้นพบวิธีบริหารเวลา ใครที่ทำได้ดังกล่าวนี้ เวลา 24 ชั่วโมงที่ทุกคนได้รับนั้นพอเพียงที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ และต้องช่วยกันปลูกนิสัยให้กับเด็กๆ ของเราให้รู้จักการบริหารเวลา และเริ่มบริหารเวลาทั้งส่วนตัวและส่วนรวม เพื่อสร้างนิสัยให้เขาเห็นความสำคัญของวันเวลาที่เขามีอยู่ เมื่อเติบใหญ่ในวันข้างหน้าเขาจะได้เป็นผู้ประสบความสำเร็จ จากการรู้จักบริหารเวลาทั้งส่วนตัวและที่ทำงาน

ในพระคริสต์ธรรมคัมภีร์ได้กล่าวว่า “มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง และมีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์”  (ปัญญาจารย์ 3:1) พระเจ้าทรงมีวาระและเวลาสำหรับเรา ให้เราใช้เวลานั้นให้คุ้มค่า และใช้ช่วงวาระเวลาต่างๆ ของชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โดย: อาจารย์อำนวย  เรืองชาญ

นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ” และ “บ้านนี้มีรัก”

องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง

Comments are closed.