“เสียงครวญจากมุมมืด”

สิ่งหนึ่งที่เราจะได้ยินเข้าหูอยู่เสมอ นั่นก็คือเสียงโอดครวญจากบรรดาผู้คนที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบากสารพัด เป็นสิ่งยืนยันความจริงที่ว่าชีวิตที่อยู่ในโลกนี้เต็มไปด้วยความยากลำบากที่จะหาความสงบสุขในชีวิตได้ยากขึ้นเรื่อยๆ

ยังไม่เพียงเท่านั้นมุมสว่างที่มีอยู่อย่างริบหรี่ที่พอจะทำให้เรามีความสุขได้บ้างนั้น ก็ค่อยๆ ดับหายไปทีละน้อย จนทำให้มุมมืดของสังคมเราเพิ่มเป็นวงกว้างออกไปอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้งได้

            อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ทุกชีวิตในโลกนี้ผันแปรเปลี่ยนไปจากคนที่เคยอยู่ในมุม “สว่าง” กลับเดินเข้าสู่ “ความมืดมิด” และอะไรคือหนทางหรือแนวทางที่จะนำพาให้เราหลุดพ้นจากความมืดมิดดังกล่าวนี้ และกลับไปสู่ความมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสงบสุขอีกครั้งได้

            ต้องย้อนกลับไปที่พระประสงค์แรกเมื่อพระเจ้าได้ทรงเนรมิตสร้างโลกนี้มานั้น แน่นอนพระเจ้าประสงค์ที่จะให้โลกนี้เป็นโลกที่มีความสุข และมีความสงบร่มเย็นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมและมีความเสมอภาคเท่าๆ กัน เป็นโลกที่มีความสมบูรณ์แบบในรูปของดินน้ำลมไฟ ตามพระประสงค์ของพระเจ้า แต่ความสมบูรณ์ดังกล่าวนี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปตามการกระทำของมนุษย์ ผิดไปจาก “แบบอย่าง” ที่พระเจ้ากำหนดไว้อย่างสิ้นเชิง คราวนี้ต้องมาดูว่า “แบบอย่าง” ที่พระเจ้าประสงค์จะให้มนุษย์ได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุขนั้นเป็นอย่างไร?

            พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต” (ยอห์น 14:6) นี่คือสภาวะที่เป็นตัวตนของพระเจ้า หนทางของพระเจ้าเป็นทางแห่งความสุข ทรงเป็นความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และทรงเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตที่อมตะนิรันดร นี่คือแบบอย่างที่พระเจ้ามีพระประสงค์ที่จะให้แบบอย่างในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ที่ควรจะเป็น หากต่างไปจากนี้แล้วผลที่จะเกิดขึ้นก็จะถูกเปลี่ยนไปในอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างไปจากทางของพระเจ้า

            วันนี้รูปแบบที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นใหม่ ต่างไปจากเส้นทางที่พระเจ้าได้กำหนดอย่างสิ้นเชิง มนุษย์มีชีวิตอยู่กับความไม่เป็นจริง ผสมผสานปนเประหว่างความจริงกับความเท็จ และจุดจบสุดท้ายตามผลของการกระทำที่เกิดจากมนุษย์เอง ผลนั้นก็คือความตาย ต่างไปจากชีวิตที่ถูกกำหนดโดยพระเจ้านั้นจะเป็นชีวิตที่อมตะนิรันดร นี่คือความแตกต่างระหว่างวิถีทางของพระเจ้ากับวิถีทางที่มนุษย์กำหนดขึ้นมาเอง เมื่อขาดไปจากพระเจ้ามนุษย์ก็ดำเนินชีวิตไปตามยถากรรมผิดบ้างถูกบ้าง ความสว่างในชีวิตที่เคยมีก็ดับลง ชีวิตจึงเต็มไปด้วยความมืดที่เข้ามาแทนที่

            นับแต่นั้นมาเสียงโอดครวญแห่งความสิ้นหวังและทุกข์โศกก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จากมุมมืด จนกว่ามนุษย์จะสำนึกผิดแล้วกลับมาสู่ความสว่างแห่งชีวิตของพระเจ้าอีกครั้ง ด้วยการกลับมาสู่แนวทางเดิมของพระเจ้าที่ได้กำหนดไว้ “เป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต” ที่พระเจ้าอ้าแขนรับการกลับมาของเราทุกคนอยู่แล้ว

โดย: อาจารย์อำนวย  เรืองชาญ

นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ” และ “บ้านนี้มีรัก”

องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง

Comments are closed.