สดุดี 30:6-10 – ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์พูดในความเจริญรุ่งเรืองของข้าพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวเลย” ข้าแต่พระเจ้าโดยความโปรดปรานของพระองค์ พระองค์ทรงสถาปนาข้าพระองค์ไว้อย่างภูเขาเข้มแข็ง พอพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์ ข้าพระองค์ก็ลำบากใจ ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ และข้าพระองค์ได้วิงวอนพระเจ้าว่า “ถ้าข้าพระองค์ตาย พระองค์จะได้กำไรอะไร คือเมื่อข้าพระองค์ลงไปยังปากแดนผู้ตาย ผงคลีจะสรรเสริญพระองค์หรือ มันจะบอกเล่าเรื่องความสัตย์จริงของพระองค์หรือ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสดับและทรงพระกรุณาต่อข้าพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ของข้าพระองค์”
สถานการณ์บางอย่างสร้างความมั่นใจ ในช่วงเวลาที่ดีเราดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุข ทุกอย่างราบรื่นไม่ว่าจะกับครอบครัว การงาน และการเงิน เรากับผู้เขียนสดุดีอุทานในความเจริญรุ่งเรืองหรืออย่างน้อยก็เกือบเจริญรุ่งเรืองว่า “ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวเลย” เราอาจยกความสำเร็จของเราว่าเป็นการอวยพรจากพระเจ้า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่จู่ๆ ก็ไม่มีอะไรดีเลย เราพบตัวเองสะดุดเข้ากับโรคร้ายหรือความเศร้าโศก เกิดความขัดแย้งในครอบครัว และปัญหาการเงินก็ท่วมท้น เกิดอะไรขึ้น พระเจ้าทรงหันพระพักตร์ไปจากเราหรือ พระองค์ทรงระงับพระหัตถ์แห่งการอวยพรไปจากชีวิตที่ดูเหมือนจะไปได้ดีหรือ
ในเวลาเช่นนี้ผู้เขียนสดุดีรู้ว่าท่านต้องหันไปหาใคร และท่านก็หันจิตใจและคำอธิษฐานของเราไปในทิศทางเดียวกัน เราร้องต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและขอพระเมตตาในโลกที่ดูเหมือนจะล่มสลายสู่ความพินาศรอบๆ ตัวเรา ผู้เขียนสดุดีอธิษฐานว่าการตกต่ำของท่านจะไม่จบลงที่ความตาย จากนั้น ท่านใช้เหตุผลเล็กน้อยในการทูลขอต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ถ้าข้าพระองค์ตาย พระองค์จะได้กำไรอะไรคือเมื่อข้าพระองค์ลงไปยังปากแดนผู้ตาย” ท่านจะสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้หรือเมื่อร่างกายของท่านเน่าเปื่อยเป็นผุยผง ถ้าท่านตายแล้วท่านจะเป็นพยานถึงความซื่อสัตย์ของพระเจ้าได้อย่างไร เราอาจไม่ใช้ข้อโต้แย้งอย่างนั้นในคำอธิษฐานของเรา แต่เราเข้าใจในความสิ้นหวังที่อยู่เบื้องหลังการทูลวิงวอนเช่นนั้น
ผู้เขียนสดุดีร้องออกมาในความผิดหวังที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหันพระพักตร์ไป ความหวาดผวาและความสิ้นหวังที่พระผู้ช่วยให้รอดของเราทรงรู้บนไม้กางเขนเมื่อพระบิดาซ่อนพระพักตร์จากพระบุตรของพระองค์ชั่วระยะหนึ่ง พระองค์ทรงละทิ้งพระบุตรของพระองค์ให้ทนทุกข์ทรมานบนไม้กางเขนเพื่อให้เราได้รับความรอดจากบาปและความตาย พระเยซูทรงลงไปถึงปากแดนผู้ตายเพื่อเรา แต่ในเช้าวันอีสเตอร์แรกพระองค์ทรงคืนพระชนม์ ผ่านทางความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงถูกตรึงบนกางเขนและคืนพระชนม์ ทำให้เราแน่ใจว่าพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเราในวันแห่งความกลัวหรือความทุกข์ลำบาก ในพระคุณและความรักมั่นคงของพระองค์ พระองค์ทรงหันพระพักตร์มาหาเราเสมอ ชีวิตในโลกนี้จะยากลำบาก และเราจะมีวันสิ้นหวัง แต่แม้ในวันเหล่านั้นเราก็วางใจในพระเยซูผู้ที่ไม่ทรงหันหลังให้เรา ในพระนามของพระองค์ เราสามารถมั่นใจได้ถึงการเข้าใกล้พระบัลลังก์ของพระเจ้าในการอธิษฐาน “เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ” (ฮีบรู 4:16)
เราอธิษฐาน: องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยของข้าพระองค์ในวันที่ดีและไม่ดี พระองค์จะไม่ทรงหันไปจากข้าพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- ความมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองทำให้เราไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องมีพระเจ้าอย่างไร
- อะไรที่เราควรจดจำไม่ว่าในเวลาดีหรือไม่ดีเกี่ยวกับพระเจ้าและความรักที่ทรงมีเพื่อเรา
- ทำไมความสามารถของเราที่เข้าใกล้พระบัลลังก์ของพระเจ้าในคำอธิษฐานจึงมีค่ามากกว่าสิ่งใดๆ ในโลก
© : Lutheran Hour Ministries