กิจการ 11:1-2ก, 4ก, 5ก, 11ข, 12-18ก – ฝ่ายพวกอัครทูตกับพี่น้องทั้งหลายที่อยู่ในแคว้นยูเดียได้ยินว่าคนต่างชาติได้รับพระวจนะของพระเจ้าเหมือนกัน เมื่อเปโตรขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มแล้ว พวกที่เข้าสุหนัตจึงต่อว่าท่าน … แต่เปโตรได้อธิบายให้เขาฟัง “เมื่อข้าพเจ้าอยู่ในเมืองยัฟฟาและกำลังอธิษฐานก็เข้าสู่ภวังค์ … สามคนมายืน … พระวิญญาณจึงสั่งให้ข้าพเจ้าไปกับเขาโดยไม่ลังเลใจเลย และพวกพี่น้องทั้งหกคนนี้ได้ไปกับข้าพเจ้าด้วย เราทั้งหลายจึงเข้าไปในตึกของผู้นั้น ผู้นั้นจึงกล่าวแก่พวกเราว่า ตัวท่านได้เห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งยืนอยู่ในตึกของท่านและบอกท่านว่า ‘จงใช้คนไปยังเมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกว่าเปโตรมา เปโตรนั้นจะกล่าวให้ท่านฟังเป็นถ้อยคำ ซึ่งจะให้ท่านกับครอบครัวของท่านรอด’ เมื่อข้าพเจ้าตั้งต้นกล่าวข้อความนั้น พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จมาสถิตกับเขาทั้งหลายเหมือนได้เสด็จลงมาบนพวกเราในตอนต้นนั้น แล้วข้าพเจ้าได้ระลึกถึงพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์ตรัสไว้ว่า ‘ยอห์นได้ให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่ท่านทั้งหลายจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ เหตุฉะนั้น ถ้าพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานแก่เขาเหมือนแก่เราทั้งหลาย เมื่อเราได้เชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้ใดเล่าที่จะขัดขืนพระเจ้าได้” ครั้นคนทั้งหลายได้ยินคำเหล่านั้นก็นิ่งอยู่ แล้วได้สรรเสริญพระเจ้า …
เปโตรฉลาด ท่านไม่ได้ปกป้องตัวเองเมื่อชาวยิวซึ่งเป็นคริสเตียนโกรธผู้เชื่อใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติ ท่านกลับเล่าเรื่องพื้นๆ ให้คริสเตียนยิวฟังและจบลงด้วยวิธีการที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เองทรงลงมาและให้คนต่างชาติมีความเชื่อในพระเยซู เหมือนดังที่พระองค์ทรงมายังผู้เชื่อชาวยิวเป็นอันดับแรกในเหตุการณ์เพนเทคอสต์ แล้วท่านก็พูดว่า “ถ้าพระเจ้าได้ทรงโปรดประทานแก่เขาเหมือนแก่เราทั้งหลายเมื่อเราได้เชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้ใดเล่าที่จะขัดขืนพระเจ้าได้”
และชาวยิวที่เป็นคริสเตียนก็ฉลาดเช่นกัน เขาไม่ยอมให้การลำเอียงของตนขวางทางสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำอย่างชัดเจน ด้วยความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาเปิดใจต่อคริสเตียนแปลกหน้าเหล่านี้ แม้ว่าเห็นได้ชัดว่านั่นจะเปลี่ยนแปลงคริสตจักรในหลายด้าน แต่ใจของเขาเปิดเพื่อรักคนเหล่านั้นอยู่ดี เขารู้ว่านี่เป็นพระสัญญาที่พระเยซูทรงให้ที่ว่า “แกะอื่นซึ่งมิได้เป็นของคอกนี้เราก็มีอยู่ แกะเหล่านั้นเราก็ต้องพามาด้วย และแกะเหล่านั้นจะฟังเสียงของเรา แล้วจะรวมเป็นฝูงเดียวและมีผู้เลี้ยงเพียงผู้เดียว” (ยอห์น 10:16)
แล้วเราล่ะ ทุกวันมีผู้คนที่ได้ยินและเชื่อในข่าวประเสริฐของพระเยซูที่บอกถึงวิธีการที่พระเจ้าทรงเข้ามาในโลกของเราเพื่อช่วยเราให้รอดผ่านทางความเจ็บปวด ความตาย การเป็นขึ้นจากตายของพระองค์ และเพื่อทำให้เราเป็นบุตรของพระเจ้า ผู้เชื่อใหม่เหล่านี้บางคนก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเรา เป็นผู้อพยพซึ่งพูดภาษาอื่นๆ เป็นคนที่รวยกว่าหรือยากจนกว่าเรา เป็นคนที่มีวัฒนธรรมหรือการเมือง หรือการดำเนินชีวิตที่แตกต่างจากเรา แต่พระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณของพระองค์มาเพื่อมอบความเชื่อในพระเยซูให้เขา และรวมเขาเข้าสู่คริสตจักรของพระองค์
เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เรารู้สึกอึดอัดเหมือนกับคริสเตียนยิวยุคแรก แต่นั่นไม่เป็นไร พระเจ้าผู้ทรงเรียกเราให้เป็นประชากรของพระองค์จะทรงช่วยเราให้รับมือได้กับพี่น้องผู้เชื่อใหม่ ไม่ว่าเราจะเห็นว่าเขาแปลกๆ สำหรับเรา จนกว่าจะถึงวันที่เราทั้งหลายยืนต่อหน้าพระเยซูเพื่อฉลองความรักที่พระองค์ทรงแสดงให้เราทั้งหลายเห็น
เราอธิษฐาน: องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รักผู้คนที่พระองค์ทรงรัก แม้ในเวลาที่ยากสำหรับข้าพระองค์ก็ตาม อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- ผู้คนแบบไหนที่คุณรู้สึกว่าแปลก
- เมื่อคุณรู้สึกกังวลเวลาที่อยู่ใกล้ผู้คนเหล่านี้ พระเยซูทรงช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอย่างไร
- อะไรที่คุณสามารถทำได้เพื่อต้อนรับผู้คนที่มาใหม่ซึ่งไม่เหมือนคุณ
© : Lutheran Hour Ministries
