ยอห์น 5:1-3, 5-9 – หลังจากนั้น … พระเยซูก็เสด็จไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในกรุงเยรูซาเล็มที่ริมประตูแกะมีสระอยู่สระหนึ่ง ภาษาฮีบรูเรียกสระนั้นว่า เบธซาธา เป็นที่ซึ่งมีศาลาห้าหลัง ในศาลาเหล่านั้นมีคนป่วยเป็นอันมาก คนตาบอด คนง่อย และคนเป็นอัมพาตนอนอยู่ ที่นั่นมีชายคนหนึ่งป่วยมาสามสิบแปดปีแล้ว เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรคนนั้น และทรงทราบว่าเขาป่วยอยู่อย่างนั้นนานแล้ว พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เจ้าปรารถนาจะหายโรคหรือ” คนป่วยนั้นทูลตอบพระองค์ว่า “ท่านเจ้าข้าเมื่อน้ำกำลังกระเพื่อมนั้น ไม่มีผู้ใดที่จะเอาตัวข้าพเจ้าลงไปในสระ และเมื่อข้าพเจ้ากำลังไปคนอื่นก็ลงไปก่อนแล้ว” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงลุกขึ้นยกแคร่ของเจ้าเดินไปเถิด” ในทันใดนั้นคนนั้นก็หายโรค และเขาก็ยกแคร่ของเขาเดินไป
นี่เป็นเรื่องราวที่แปลก พระเยซูทรงยืนอยู่ท่ามกลางทะเลผู้ป่วย ทุกคนต้องการความช่วยเหลือเป็นที่สุด แต่พระองค์ทรงเลือกพูดกับชายคนหนึ่ง พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เจ้าปรารถนาจะหายโรคหรือ”
ช่างเป็นคำถามที่ประหลาด ทุกคนต้องการมีสุขภาพดีไม่ใช่หรือ หรือไม่ใช่ ชายคนนี้ป่วยมา 38 ปีแล้ว ถ้าเขาอาการดีขึ้น เขาก็จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต คำถามของพระเยซูอาจลึกยิ่งกว่าความคิดของเขา
ชายคนนั้นไม่ได้ตอบพระองค์โดยตรง เขาได้แต่เพียงบ่น แต่ปรากฎว่านี่ก็ดีพอแล้วสำหรับพระเยซู ต่อมาพระองค์ทรงสั่งให้ชายคนนี้ลุกขึ้นและเดินไป ด้วยความเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่มีระเบียบ พระองค์ทรงเตือนเขาให้เก็บที่แคร่ของเขาไปด้วย
แล้วจากนั้น พระเยซูก็ทรงจากไป ทรงปล่อยคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการรักษาเอาไว้ เพราะอะไร ข้าพเจ้าไม่ทราบ ข้าพเจ้าคิดได้ถึงเหตุผลที่ดีอย่างเช่น พระองค์คงสร้างความวุ่นวายหากทรงพยายามรักษาโรคให้ทุกคน และบางทีการถูกตรึงก็อาจร่นเวลาเข้ามาด้วย แต่ความจริงก็คือ นี่คือวิธีการที่พระเจ้าทรงประพฤติในตลอดพระคัมภีร์ และในชีวิตของเราวันนี้ พระองค์ทรงจัดการกับผู้คนทีละคน ไม่เคยทรงทำกับคนที่เข้าแถวรออยู่ บางคนได้รับการอัศจรรย์ เราส่วนใหญ่ยังเจ็บปวดต่อเนื่อง พระเยซูทรงทำเหมือนพระบิดาของพระองค์ ซึ่งพูดได้ว่า พระองค์ไม่ทรงอธิบายพระองค์เอง พระองค์ทรงทำสิ่งที่พระองค์ทรงทำ
แต่สิ่งที่พระเยซูทรงกระทำเป็นสิ่งที่ดี ชายคนนั้นได้รับการรักษา แม้จะสร้างความยุ่งยากขึ้นเมื่อผู้มีอำนาจพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันสะบาโต แล้วพระเยซูก็เสด็จตามหาเขาในเวลาต่อมาเพื่อจัดการกับเรื่องบาปส่วนตัวซึ่งมีเพียงเขาสองคนเท่านั้นที่รู้
ดังนั้น เรารู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ บางคนโกรธพระเจ้าที่ไม่ทรงทำด้วยวิธีการที่เขาเข้าใจได้
บางคนพูดว่า “ข้าฯไม่เข้าใจพระองค์ แต่ก็วางใจพระองค์” เพราะสิ่งที่เราเข้าใจนั้นดี เราเข้าใจอย่างเช่น พระองค์ทรงมอบชีวิตของพระองค์เองบนกางเขนเพื่อช่วยกู้เราทั้งหลายจากอำนาจของบาป ความผิดและความตาย แล้วต่อมาพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย เพื่อว่าทุกคนที่วางใจในพระองค์จะมีชีวิตตลอดไป
ข้าพเจ้าไม่เข้าใจพระเยซู แต่ข้าพเจ้าไว้วางใจพระองค์ นั่นเพียงพอแล้วสำหรับข้าพเจ้า
เราอธิษฐาน: ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์ผิดหวังกับพระองค์ และขอให้ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณเคยผิดหวังกับพระเจ้าหรือไม่
- คุณจัดการกับความผิดหวังของคุณอย่างไร
- ความตายและการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูบอกอะไรคุณเกี่ยวกับพระทัยของพระองค์
© : Lutheran Hour Ministries
