ธรรม​ชีวิต​ประจำวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2025​ “ศักดิ์ศรีและเกียรติ”

สดุดี 8:3-6 – เมื่อข้าพระองค์มองดูฟ้าสวรรค์อันเป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ ดวงจันทร์และดวงดาวซึ่งพระองค์ได้ทรงสถาปนาไว้ มนุษย์เป็นผู้ใดเล่าซึ่งพระองค์ทรงระลึกถึงเขา และบุตรของมนุษย์เป็นใครเล่าซึ่งพระองค์ทรงเยี่ยมเขา เพราะพระองค์ทรงสร้างเขาให้ต่ำกว่าพระเจ้าแต่หน่อยเดียว และสวมศักดิ์ศรีกับเกียรติให้แก่เขา พระองค์ทรงมอบอำนาจให้ครอบครองบรรดาพระหัตถกิจของพระองค์ พระองค์ทรงให้สิ่งทั้งปวงอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา

มนุษย์มีความสำคัญต่อพระเจ้ามากแค่ไหนพระองค์จึงต้องใส่พระทัย หรือแม้กระทั่งทรงคิดถึงแค่คนๆ เดียวที่พระองค์ทรงสร้าง นั่นคือสิ่งที่ผู้เขียนสดุดีต้องการรู้ เมื่อเปรียบเทียบกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่หรือภูเขามหึมา มนุษย์ก็เล็กมากและแทบไม่สังเกตเห็น แน่นอนว่า จากความคิดเห็นของเราเองแล้วเรามีความสำคัญมาก เราชอบจินตนาการด้วยความเย่อหยิ่งจากบาปว่าทุกอย่างหมุนรอบตัวเรา จากนั้นเรามองดวงดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนหรือจำได้ถึงบาปที่เราเคยทำแล้วเราก็รู้สึกว่าตัวเองเล็กมากๆ ขึ้นมาทันที นั่นคือสิ่งที่ผู้เขียนสดุดีรู้สึก ท่านเหงนมองดูท้องฟ้าตอนกลางคืนที่แผ่ไพศาลเหนือศีรษะแล้วทูลถามพระเจ้าว่า “มนุษย์เป็นผู้ใดเล่าซึ่งพระองค์ทรงระลึกถึงเขา”

พระเจ้าทรงระลึกถึงผู้คนที่พระองค์ทรงสร้าง พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ผู้ชายและผู้หญิงตามพระฉายาของพระองค์ พระองค์ทรงให้มีอำนาจ “เหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:28ข) เขาเป็นมงกุฎและศักดิ์ศรีแห่งการทรงสร้างของพระองค์ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้ต่ำกว่าทูตสวรรค์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่สง่าราศีและการครอบครองไม่เพียงพอสำหรับผู้คนที่พระเจ้าทรงสร้าง เขาต้องการมากกว่านั้นและเลือกที่จะไม่เชื่อฟังพระผู้สร้างของเขา เราเองก็เลือกทำสิ่งที่ตรงข้ามกับพระประสงค์ของพระเจ้าเหมือนเขาเหล่านั้น เราใช้อำนาจของเราที่อยู่เหนือสิ่งทรงสร้างไปในทางที่ผิดและแสวงหาศักดิ์ศรีเพื่อตัวเราเองแทนที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้า เราล้มลง เราเป็นคนบาป แต่เรายังคงมีค่าต่อพระเจ้าซึ่งพระองค์ทรงส่งพระบุตรของพระองค์ลงมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ผู้เขียนหนังสือฮีบรูใช้ถ้อยคำในสดุดีบทนี้อธิบายถึงพันธกิจบนโลกนี้และการช่วยให้รอดขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเยซูทรงถ่อมพระองค์เองเพื่อบังเกิดเป็นมนุษย์ท่ามกลางเรา และพระองค์ทรงรับสภาพที่ต่ำว่าทูตสวรรค์ชั่วเวลาหนึ่ง พระองค์ทรงทนทุกข์และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปของโลก พระองค์ทรงได้รับการชุบให้เป็นขึ้นมาจากตาย และทรงได้รับการยกย่องให้ครอบครอง ณ เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา อันเป็นที่ซึ่งพระองค์ทรงได้รับมงกุฏด้วยศักดิ์และเกียรติ โดยทุกสิ่งขึ้นอยู่กับพระองค์ (ดู ฮีบรู 2:6-8)

เราเห็นศักดิ์ศรีของพระเจ้าที่แสดงให้เห็นในความงดงามของสิ่งทรงสร้างของพระองค์ เราหาทางแบ่งปันความรักของพระเจ้ากับผู้อื่น และเป็นผู้ดูแลที่ดีของโลกที่พระองค์ทรงสร้าง แต่เราไม่จำเป็นต้องถามว่าพระเจ้าทรงห่วงใยเราหรือไม่ หรือพระองค์ทรงใส่พระทัยในเราหรือเปล่า เราสามารถมองดูดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนและรำลึกถึงดวงดาวพิเศษดวงหนึ่งที่ประกาศการมาบังเกิดของพระเยซูเมื่อนานมาแล้ว เรารู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้าทรงห่วงใยเรา ก็จากการที่พระองค์ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา!

เราอธิษฐาน: องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงใส่พระทัยในข้าพระองค์เพราะพระองค์ทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ อาเมน

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
1.คุณมีพื้นที่ธรรมชาติที่โปรดปรานซึ่งคุณต้องการอนุรักษ์ไว้หรือไม่ เช่น ป่าไม้ ทะเลสาบ ทะเลทราย ฯลฯ
2.พระเจ้าทรงยกย่องมนุษย์ด้วยศักดิ์ศรีและเกียรติด้วยวิธีการใด
3.มนุษย์เป็นผู้อารักขาที่ดี / ที่ไม่ดีของธรรมชาติอย่างไร

© : Lutheran Hour Ministries

Comments are closed.