สดุดี 41:6-9 – เมื่อคนหนึ่งคนใดมาเห็นข้าพระองค์ เขาพูดเท็จขณะที่ใจของเขาเก็บเรื่องร้าย เมื่อเขาออกไปเขาก็ป่าวร้องไป ทุกคนที่เกลียดข้าพระองค์ เขาซุบซิบกันถึงเรื่องข้าพระองค์ เขาปองร้ายต่อข้าพระองค์ เขาทั้งหลายกล่าวว่า “มีสิ่งร้ายเข้าไปอยู่ในตัวเขาแล้ว เขาจะไม่ลุกไปจากที่ที่เขานอนนั้นอีก” แม้ว่าเพื่อนในอกของข้าพระองค์ ผู้ซึ่งข้าพระองค์ไว้วางใจ ผู้รับประทานอาหารของข้าพระองค์ก็ยกส้นเท้าใส่ข้าพระองค์
ดาวิดผู้เขียนสดุดีบทนี้เห็นคุณค่าของคำแนะนำจากอาหิโธเฟลที่ปรึกษาของพระองค์ เพียงแต่ทรงถูกทรยศโดยคำแนะนำชั่วร้ายที่อาหิโธเฟลมอบให้กับอับซาโลมโอรสของดาวิดซึ่งเป็นกบฏ (ดู 2 ซามูเอล 16:20-23) บางทีดาวิดอาจกำลังคิดถึงการทรยศนี้ขณะที่พระองค์เขียนว่าเพื่อนสนิท “ยกส้นเท้าใส่ข้าพระองค์” ในวัฒนธรรมนั้น การยกฝ่าเท้าหรือรองเท้าแตะให้คนอื่นเห็นถือเป็นการดูหมิ่น
ด้วยแรงบันดาลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในสดุดีนี้ ดาวิดยังบอกล่วงหน้าถึงการทรยศต่อลูกหลานของพระองค์คือ พระเยซูพระเจ้าของเราที่ได้ชื่อว่าเป็นบุตรของดาวิด ศัตรูของพระเยซูมาฟังคำสอนของพระองค์หลายครั้ง เขาพูด “คำพูดเท็จ” แสร้งทำเป็นสนใจในขณะที่เขาพยายามหาหลักฐานเพื่อลงโทษพระองค์ พระคัมภีร์บรรยายการหลอกลวงนี้ว่า “พวกฟาริสีไปปรึกษากันวางแผนว่าจะจับผิดในถ้อยคำของพระองค์ให้ได้” (มัทธิว 22:15) ศัตรูของพระเยซูปฏิเสธพระองค์ในฐานะพระเมสสิยาห์ และแน่นอนว่า เขาจินตนาการถึงสิ่งเลวร้ายที่สุดสำหรับพระองค์ นั่นคือ ความตายของพระองค์ จุดจบที่พวกเขาจินตนาการไว้จะกลายเป็นจริงเมื่อพระเยซูทรงถูกมอบให้ศัตรูของพระองค์ตรึงที่กางเขน ในมื้ออาหารปัสกาในคืนก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ พระเยซูทรงระบุถึงผู้ทรยศพระองค์ว่า “ผู้ที่เอาอาหารจิ้มในชามเดียวกันกับเรา ผู้นั้นแหละที่จะอายัดเราไว้” (มัทธิว 26:23ข) เช่นเดียวกับดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ พระเยซูทรงถูกทรยศโดยมิตรสหายซึ่งเป็นสาวกที่กินขนมปังกับพระองค์ ยูดาสที่เป็นสาวกของพระเยซู “ยกส้นเท้า” ขึ้นต่อต้านพระเจ้าของตน และทรยศต่อพระผู้ช่วยให้รอด
เรายังเคยมีส่วนร่วมในการทรยศด้วย โดยอาศัยการนินทาหรือโกหกเพื่อทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น เราทรยศต่อพระเจ้าของเราด้วยบาปของเรา โดยการกระทำผิดและโดยการละเลยการทำดี เราทำผิดในสิ่งเหล่านี้และมากกว่านั้น แต่ด้วยพระคุณและความรักมั่นคงของพระองค์ พระเยซูทรงแบกไม้กางเขนเพื่อเรา พระองค์ทรงทนทุกข์และสิ้นพระชนม์เพื่อชดใช้บาปแห่งการทรยศของเราและบาปทั้งหมดของเรา สดุดีนี้บอกล่วงหน้าถึงผลลัพธ์ที่น่าเกลียดชังซึ่งศัตรูของพระเยซูหวังว่าจะได้เห็น “เขาจะไม่ลุกไปจากที่ที่เขานอนนั้นอีก” นี่คือผลลัพธ์ที่ซาตานต้องการให้เกิดขึ้นกับเรา โดยหวังว่าจะเห็นความตายมาพรากเราไปตลอดกาล แต่พระเจ้าทรงมีแผนอื่นสำหรับพระบุตรของพระองค์และสำหรับเรา สดุดีบทนี้บอกล่วงหน้าถึงการคืนพระชนม์ของพระเยซู “แต่พระองค์ทรงค้ำชูข้าพระองค์ไว้ เพราะความสัตย์สุจริตของข้าพระองค์ และทรงตั้งข้าพระองค์ไว้ต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์เป็นนิตย์” (สดุดี 41:12) พระบุตรของพระเจ้าในความบริสุทธิ์และความซื่อสัตย์ของพระองค์ทรงคืนพระชนม์จากความตายเพื่อครองราชย์ในพระสิริอันสูงส่ง โดยพระคุณของพระเจ้าผ่านทางความเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงถูกตรึงกางเขนและคืนพระชนม์ บาปของเราได้รับการอภัย ในวันสุดท้าย เราจะเป็นขึ้นจากความตายเพื่ออยู่ในการสถิตของพระเจ้าตลอดไป นั่นคือ คำสัญญาของพระกิตติคุณ และเป็นคำแนะนำที่ชาญฉลาดที่เราสามารถไว้วางใจได้
เราอธิษฐาน: องค์พระผู้เป็น ข้าพระองค์วางใจในคำปรึกษาที่มีสติปัญญาของพระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- การถูกพูดถึงในแง่ร้ายไม่เคยเป็นสิ่งที่ดี คุณตอบโต้อย่างไรเมื่อผู้คนเริ่มพูดไม่ดีเกี่ยวกับคนอื่น
- คุณสามารถยกตัวอย่างเมื่อพระเยซูถูกผู้อื่นกล่าวร้ายในช่วงเวลาที่พระองค์ทรงอยู่บนโลกได้หรือไม่
- เราทำอะไรได้บ้างเพื่อให้การสนทนาเกี่ยวกับผู้อื่นเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม
© : Lutheran Hour Ministries