ธรรมชีวิตประจำวันพุธที่ 9 กรกฎาคม 2025 “รับการขับเคลื่อน”

โคโลสี 1:1-3, 12-14 – เปาโล อัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามพระทัยของพระเจ้าและทิโมธีน้องชาย เรียน ธรรมิกชนและพี่น้องที่เชื่อในพระคริสต์ ณ เมืองโคโลสี ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระบิดาเจ้าของเราจงดำรงอยู่กับท่านเถิด เราขอบพระคุณพระบิดาเจ้าของพระเยซูคริสตเจ้าของเราเสมอ เมื่อเราอธิษฐานเพื่อท่านทั้งหลาย … ให้ขอบพระคุณพระบิดา ผู้ทรงทำให้เราทั้งหลายสมกับที่จะเข้าส่วนได้รับมรดกด้วยกันกับธรรมิกชนในความสว่าง พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้พ้นจากอำนาจของความมืด และได้ทรงย้ายเรามาตั้งไว้ในแผ่นดินแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์ ในพระบุตรนั้นเราจึงได้รับการไถ่ ซึ่งเป็นการทรงโปรดยกบาปทั้งหลายของเรา

เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้ารู้สึกสนใจที่จะค้นพบว่ามีดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ในอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน นั่นหมายความว่า ดาวเคราะห์จะหันด้านเดียวกับดาวฤกษ์ที่มันโคจรรอบอยู่เสมอ และอีกด้านหนึ่งจะหันออกสู่ความมืดมิด เราเคยคิดว่าดาวพุธเป็นเช่นนี้ แม้ว่าตอนนี้เราจะรู้แล้วว่าสิ่งต่างๆ ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย แต่ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์อย่างแท้จริง ชีวิตที่นั่นจะเป็นอย่างไร

ข้าพเจ้าคิดว่าค่อนข้างแปลก ด้านที่สว่างจะไม่มีกลางคืน และอีกด้านหนึ่งก็จะไม่มีกลางวัน จะมีวงกลมบาง ๆ ล้อมรอบดาวเคราะห์แห่งพลบค่ำชั่วนิรันดร์ และแน่นอนว่า อุณหภูมิจะแตกต่างกันอย่างมากระหว่างด้านกลางวันและกลางคืน

ลองนึกภาพดูว่าจะเป็นอย่างไรหากเราใช้ชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าจู่ๆ เราถูกย้ายจากด้านกลางคืนไปด้านกลางวัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะรับไหว และนั่นคือ การเปลี่ยนแปลงที่เปาโลกำลังพูดถึงเมื่อท่านพูดว่าพระเจ้า “ได้ทรงช่วยเราให้พ้นจากอำนาจของความมืด และได้ทรงย้ายเรามาตั้งไว้ในแผ่นดินแห่งพระบุตรที่รักของพระองค์ ในพระบุตรนั้นเราจึงได้รับการไถ่ ซึ่งเป็นการทรงโปรดยกบาปทั้งหลายของเรา”

ความแตกต่างอะไรที่เรากำลังพูดถึง ความแตกต่างระหว่างความตายและชีวิต ระหว่างความเกลียดชัง ความโกรธ ความเศร้าโศก การสูญเสีย และความกลัวในด้านหนึ่ง และความรัก ความยินดี ความสงบ ความสบายใจ และความหวังในอีกด้านหนึ่ง ความแตกต่างระหว่างการใช้ชีวิตในที่ที่ผู้คนไม่เคยถูกกำหนดให้อยู่ ภายใต้พลังอำนาจของมาร กับการใช้ชีวิตกับพระเยซูพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ผู้ซึ่งทรงรักเรา ในสถานที่ซึ่งพระองค์เรียกว่า “ราชอาณาจักรซึ่งได้ตระเตรียมไว้สำหรับท่านทั้งหลายตั้งแต่แรกสร้างโลก” (มัทธิว 25:34ข)

แล้วเราจะก้าวข้ามความมืดไปสู่แสงสว่างได้อย่างไร ก็โดยผ่านความรักความเมตตาของพระเจ้าที่ทรงแสดงให้เราเห็นผ่านพระเยซู พระผู้ช่วยให้รอดของเรา

หากเราอยู่บนดาวเคราะห์ที่หมุนรอบตัวเอง และโคจรรอบดาวฤกษ์อื่น เราก็สามารถเปลี่ยนจากด้านมืดไปสู่ด้านสว่างได้อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี แต่นั่นไม่ใช่กรณีของชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา เพราะการเคลื่อนไหวนั้นเราต้องการความช่วยเหลือ เราต้องการพระเยซู เราทำไม่ได้ด้วยตัวเราเอง แต่พระองค์ทรงทำได้ และพระองค์ทรงทำแล้ว นั่นคือ ความหมายของการทนทุกข์ ความตาย และการคืนพระชนม์จากความตายของพระองค์

หากเราวางใจในพระเยซู เราก็จะดำเนินชีวิตในด้านสว่าง และเราจะได้รับความอบอุ่นและแสงสว่างทั้งหมดที่เราต้องการในพระองค์

เราอธิษฐาน: พระบิดาที่รัก ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงนำข้าพระองค์ให้อยู่ในแผ่นดินของพระบุตรของพระองค์ ภายในความสว่างและอบอุ่นของพระองค์ อาเมน

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:

  1. ทำไมผู้คนจึงเรียกพระเยซูว่าเป็นความสว่างของโลก
  2. ทำไมจึงสมเหตุผลที่จะเรียกพระองค์ว่าเป็นความอบอุ่นด้วยเช่นกัน
  3. พระเยซูทรงนำความสว่างและความอบอุ่นมาสู่ชีวิตของคุณอย่างไร

© : Lutheran Hour Ministries

Comments are closed.