พระเจ้าทรงเป็นผู้สถาปนาสถาบันครอบครัว ดังนั้น พิธีสมรสจึงเป็นพิธีที่มีความหมายทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ และเป็นการกระทำตามกฎหมายของบ้านเมือง ตามกฎหมายที่เป็นบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยเฉพาะพิธีสมรสของผู้เชื่อในพระเจ้านับเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่คู่บ่าวสาวได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกันและต่อพระเจ้าว่า จะครองชีวิตคู่ด้วยความรัก ความซื่อสัตย์ และการเคารพซึ่งกันและกัน พิธีนี้เป็นการแสดงออกถึงความผูกพันทางจิตวิญญาณและร่างกาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นเครื่องหมายถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์นั่นเอง และพระเยซูคริสต์ก็ได้ทรงตรัสสั่งสอนไว้ว่า ถ้าผู้ใดหย่าภรรยาของตนแล้วไปมีภรรยาใหม่ ผู้นั้นก็ได้ผิดประเวณีต่อภรรยาเดิม และผู้ใดรับหญิงที่สามีได้หย่าแล้วมาเป็นภรรยาของตนก็ผิดประเวณีด้วย และถ้าหญิงเองจะหย่าสามีของตนแล้วไปมีสามีใหม่ หญิงนั้นก็ผิดประเวณีเหมือนกัน ข้าแต่พระเจ้า ในเวลานี้ผู้คนมากมายได้หลงไปจากความจริงของพระองค์หันไปยึดมั่นในความมีเสรีภาพของ ไม่สนใจในศีลธรรมใดๆ สนใจแต่ความพึงพอใจเป็นส่วนตัว จึงนำมาซึ่งปัญหามากมายและนำไปสู่การทำร้ายและทำลายกันและกัน ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดยับยั้งการอธรรมเช่นนี้ด้วยเถิด เพราะการกระทำเช่นนี้มีแต่จะนำไปสู่ความหายนะและความพินาศทั้งสิ้น ข้าพระองค์ทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
ชายใดที่ล่วงประเวณีผัวเมีย ย่อมไม่มีสามัญสำนึก ผู้ใดที่กระทำอย่างนั้นก็ทำลายตนเอง – สุภาษิต 6:32