“ได้ปัญญาก็ดีกว่าได้ทองคำสักเท่าใด ที่จะเลือกเอาความรอบรู้ก็ดีกว่าเงิน”

โลกนี้สอนและบอกต่อๆ กันว่าการมีเงินก็นับว่าเป็นน้อง การมีทองก็นับว่าเป็นพี่ ซึ่งเป็นความหมายที่ชัดเจนว่าผู้คนให้ความสำคัญเกี่ยวกับเงินและทองเป็นอย่างมาก อีกทั้งรวมไปถึงการสะสมทรัพย์สมบัติในโลกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมีได้เพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย เพื่อเกียรติ เพื่อศักดิ์ศรี และเพื่ออำนาจบารมีของตนเอง ซึ่งแท้จริงสิ่งของเหล่านี้ไม่มีผู้ใดที่สามารถจะนำติดตัวไปได้เมื่อจากโลกนี้ไปเพราะทุกอย่างเหล่านี้ล้วนอนิจจัง แต่สิ่งที่จีรังยั่งยืนคือ การดำรงอยู่ของพระเจ้าและพระวจนะของพระองค์ซึ่งดำรงอยู่เป็นนิตย์ผ่านทางพระเยซูคริสต์และพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถดำรงอยู่ได้ตลอดไปเป็นนิตย์ ดังนั้น พระองค์จึงทรงตรัสและทรงบอกแก่มนุษย์ทุกคนว่า การมีปัญญาคือ การรู้จักพระเจ้าเป็นการส่วนตัวนั้นมีค่ามากที่สุดสำหรับชีวิตทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เมื่อมีความเข้าใจในน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์และเข้าใจพร้อมกระทำตามพระวจนะของพระองค์ซึ่งทรงตรัสไว้แก่มนุษย์ทุกคน เพราะนั่นคือ สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับมนุษย์ทุกคนไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่เชื่อวางใจกระทำตามคำสั่งสอนของพระองค์ก็จะได้รับสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้คือ ชีวิตนิรันดร์ที่อยู่กับพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์

ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดให้ข้าพระองค์ใส่ใจและให้ความสำคัญสำหรับพระวจนะของพระองค์ซึ่งเป็นปัญญาแก่ข้าพระองค์มากกว่าที่ข้าพระองค์จะสนใจและใส่ใจในการมีเงินและทองสำหรับความสุขสบายในโลกนี้ ข้าพระองค์ทูลขอปัญญาและความรอบรู้จากพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

ได้ปัญญาก็ดีกว่าได้ทองคำสักเท่าใด ที่จะเลือกเอาความรอบรู้ก็ดีกว่าเงิน – สุภาษิต 16:16

ชื่อ-ที่อยู่-ที่ติดต่อ

Comments are closed.