ลูกา 12:22-33ก, 34 – พระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “เหตุฉะนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่า อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตนว่า จะเอาอะไรกิน และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตนว่า จะเอาอะไรนุ่งห่ม เพราะว่าชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหาร และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่ม จงพิจารณาดูอีกา มันมิได้หว่าน มิได้เกี่ยว และมิได้มียุ้งหรือฉาง แต่พระเจ้ายังทรงเลี้ยงมันไว้ ท่านทั้งหลายประเสริฐกว่านกมากทีเดียว มีใครในพวกท่านโดยความกระวนกระวาย อาจต่อชีวิตให้ยาวออกไปอีกสักศอกหนึ่งได้หรือ เหตุฉะนั้น ถ้าสิ่งเล็กน้อยยังทำไม่ได้ ท่านยังจะกระวนกระวายถึงสิ่งอื่นทำไมอีกเล่า จงพิจารณาดอกไม้ว่ามันงอกเจริญขึ้นอย่างไร มันไม่ทำงาน มันไม่ปั่นด้าย แต่เราบอกท่านทั้งหลายว่า กษัตริย์ซาโลมอนเมื่อบริบูรณ์ด้วยสง่าราศี ก็มิได้ทรงเครื่องงามเท่าดอกไม้นี้ดอกหนึ่ง แม้ว่าพระเจ้าทรงตกแต่งหญ้าที่ทุ่งนาอย่างนั้น ซึ่งเป็นอยู่วันนี้และรุ่งขึ้นต้องทิ้งในเตาไฟ โอ ผู้ที่มีความเชื่อน้อย พระองค์จะทรงตกแต่งท่านมากยิ่งกว่านั้นหนา ท่านทั้งหลายอย่าเสาะหาว่าจะกินอะไรดีหรือจะดื่มอะไร และอย่ามีใจกังวล เพราะว่าพวกต่างชาติทั่วโลกเสาะหาสิ่งของทั้งปวงนี้ แต่ว่าพระบิดาของท่านทั้งหลายทรงทราบแล้วว่า ท่านต้องการสิ่งเหล่านี้ แต่ท่านทั้งหลายจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้ให้ “ฝูงแกะเล็กน้อยเอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระบิดาของท่านชอบพระทัยจะประทานแผ่นดินนั้นให้แก่ท่าน ท่านทั้งหลายจงขายของที่ท่านมีอยู่และทำทาน … เพราะว่าทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ไหน ใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย”
การทำตามที่พระเยซูตรัสไว้ตรงนี้อาจเป็นเรื่องยากมาก อย่างน้อยก็ในการเริ่มต้น เราถูกจำกัดให้กังวลเกี่ยวกับอนาคต แล้วทำไมหรือ ก็เพราะเราคิดว่าเราสามารถควบคุมและทำให้ออกมาดีได้ ถ้าเราพะวงมากพอ แต่นั่นไม่ใช่ความจริงเลยใช่ไหม
พระเยซูทรงกระตุ้นเตือนเราให้จดจ่ออยู่กับสิ่งเดียวที่สำคัญจริงๆ นั่นคือ แผ่นดินของพระเจ้า และพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์ตรัสว่า จงทำเช่นนั้น แล้วพระเจ้าจะทรงจัดการเรื่องอื่นๆ ให้เรา เราสามารถวางใจในพระองค์ได้
แต่นี่คงไม่ใช่ความเป็นจริงใช่ไหม จริงๆ แล้วมันก็เป็นไปได้นะ อย่างที่คุณค้นพบเมื่อคุณสูญเสียแผนการส่วนตัวทั้งหมดที่คุณเคยยึดถือไว้ และไม่มีอะไรเหลือให้ทำนอกจากขอพระเจ้าว่าพระองค์ทรงต้องการอะไรจากคุณ แล้วคุณก็เริ่มต้นก้าวเล็กๆ ด้วยการเชื่อฟัง และคุณเห็นพระองค์ทรงรักษาสัญญาของพระองค์ และในที่สุด (หลังจากผ่านไปประมาณ 20 ปี!) คุณก็เริ่มผ่อนคลาย แล้วก็กลายเป็นการผจญภัย พระเจ้าจะทรงทำอะไรต่อไปล่ะ
ทำไมต้องลองทำเช่นนี้ เพราะพระองค์ผู้ที่เรารักที่สุดทรงกำลังเชิญเราให้มาสู่วิถีชีวิตแบบนี้ นั่นคือ พระเยซูเอง พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อประทานชีวิตที่แท้จริงและน่าพึงพอใจแก่เรา ซึ่งคงอยู่ชั่วนิรันดร์ คุณรู้ไหมว่าพระองค์ทรงประทานของขวัญนี้ให้เราด้วยพระชนม์ชีพของพระองค์เอง เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน และสามวันต่อมาทรงคืนพระชนม์จากความตาย บัดนี้เราทุกคนที่วางใจในพระองค์มีชีวิตที่แท้จริง ชีวิตที่ไม่อาจพรากไปจากเราได้ ไม่ว่าภัยพิบัติใดจะมาเยือนเรา เราสามารถเสี่ยงวางใจในพระองค์ด้วยชีวิตนั้นได้ เพราะพระองค์ทรงแสดงให้เราเห็นว่าพระองค์ทรงรักเรามากเพียงใด และพระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งเรา หรือเลือกที่จะเบื่อหน่ายเรา
เราอธิษฐาน: ขอองค์พระเยซูที่รักทรงช่วยข้าพระองค์ให้เรียนรู้ที่จะวางใจในพระองค์ในความกังวลทุกๆ วัน และวางใจในชีวิตนิรันดร์ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณมีความกังวลมากหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องอะไร
- จงเล่าถึงเวลาที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมเพื่อคุณ
- ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงให้คุณเห็นถึงการเริ่มต้นย่างก้าวด้วยการเชื่อฟังซึ่งคุณสามารถลองทำเมื่อคุณเรียนรู้ที่จะวางใจในพระองค์มากขึ้น
© : Lutheran Hour Ministries