อพยพ 3:12 – พระองค์ (พระเจ้า) จึงตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้าแน่ นี่เป็นหมายสำคัญให้เจ้ารู้ว่าเราใช้ให้เจ้าไป คือเมื่อเจ้านำประชากรออกจากอียิปต์แล้ว เจ้าทั้งหลายจะมานมัสการพระเจ้าบนภูเขานี้”
เรื่องราวของโมเสสแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงใช้บุคคลหนึ่งได้อย่างน่าอัศจรรย์
หลังจากที่มารดาของโมเสสนำบุตรของนางไปวางไว้ในดงกกริมแม่น้ำไนล์เพื่อหลบซ่อนบุตรจากแผนการชั่วร้ายของฟาโรห์ที่จะสังหารทารกเกิดใหม่ของอิสราเอล เด็กชายคนนี้ก็รอดชีวิตมาได้และเติบโตอย่างงดงาม โมเสสเติบโตและได้รับการศึกษาอย่างคนอียิปต์ แต่ท่านก็ไม่เคยลืมเชื้อสายฮีบรูของตน จนกระทั่งวันหนึ่งท่านฆ่าชาวอียิปต์คนหนึ่งที่กำลังทำร้ายเพื่อนชาวฮีบรูด้วยกัน เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผยโมเสสจึงหลบหนีไปยังดินแดนมีเดียน
ณ ที่นั้น พระเจ้าทรงมีพระราชกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าสำหรับโมเสส วันหนึ่ง ขณะที่กำลังดูแลแกะของครอบครัว พระเจ้าทรงพบโมเสสในพุ่มไม้ที่ลุกไหม้ นั่นคือ จุดเริ่มต้นพันธกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้โมเสส พระองค์ทรงปรารถนาให้โมเสสกลับไปยังอียิปต์ ติดต่อกับฟาโรห์ และนำพาลูกหลานของอิสราเอลไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญา
ชายแห่งชะตากรรมผู้นี้ไม่เป็นที่น่าประทับใจ ท่านไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของพระเจ้าสำหรับชีวิตของตนโดยพูดว่า“ข้าพระองค์เป็นผู้ใดเล่า จึงจะไปเฝ้าฟาโรห์และนำคนอิสราเอลออกจากอียิปต์” (อพยพ 3:11ข) แม้กระทั่งหลังจากที่พระเจ้าทรงให้ความมั่นใจอีกครั้งถึงการทรงอยู่ด้วยของพระองค์ในการทำภารกิจที่รออยู่ข้างหน้า โมเสสก็ลังเลใจจึงพูดว่า “แต่พระองค์เจ้าข้า เขาจะไม่เชื่อข้าพระองค์หรือฟังเสียงของข้าพระองค์ เพราะเขาจะว่า ‘พระเจ้ามิได้ทรงปรากฏแก่ท่านเลย’” (อพยพ 4:1ข)
เมื่อโมเสสท้าทายพระเจ้าอีกครั้งเกี่ยวกับการขาดความสามารถในการพูด พระเจ้าตรัสว่า “เพราะฉะนั้น ไปเถิด เราจะอยู่ที่ปากของเจ้า และจะสอนคำซึ่งควรจะพูด” (อพยพ 4:12) โมเสสเป็นมนุษย์ที่แท้จริงเช่นเดียวกับมนุษย์ที่แท้จริง ท่านมีข้อเสนออีกอย่างหนึ่งว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงโปรดใช้ผู้อื่นไปเถิด พระเจ้าข้า” (อพยพ 4:13ข) ในที่สุด อาโรน พี่ชายของโมเสสก็ได้รับมอบหมายให้มาช่วยโมเสสทำในสิ่งที่ตัวท่านสามารถทำได้
ในที่สุด บัดนี้ ชายผู้ติดอ่างแห่งชะตากรรมก็เงียบลง ความไม่เต็มใจของท่านได้พูดออกมาแล้ว และความดื้อรั้นของเขาเป็นเพียงวันเวลาอันสั้น ไม่ว่าอย่างไร พระเจ้าก็จะทรงทำตามพระประสงค์ของพระองค์ พระเจ้าไม่ได้ทรงเรียกผู้ที่มีของประทานมากที่สุดมารับใช้พระองค์เสมอไป วีรบุรุษของพระองค์มีข้อบกพร่องมากมายจนทำให้เรื่องทั้งหมดพังทลาย และในที่นี้ ดูเหมือนว่าโมเสสพยายามอย่างเต็มที่ที่จะขัดขวางบทบาทของท่านในปฏิบัติการนี้
พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ต่อมนุษย์แม้พวกเขาจะมีข้อบกพร่องและความล้มเหลว ผู้รับใช้ของพระองค์เปรียบเสมือนภาชนะดินเผา ซึ่งพระคุณของพระองค์ได้เปลี่ยนให้เป็นเครื่องมือแห่งพระสิริ ฤทธานุภาพของพระเจ้าปรากฏชัดในความอ่อนแอของมนุษย์ ไม่ใช่ในกำลังของมนุษย์ อัครสาวกเปาโลเข้าใจความจริงข้อนี้ เมื่อทราบถึงพระคุณและฤทธานุภาพของพระเจ้า ท่านจึงกล่าวว่า “เพราะว่าข้าพเจ้าอ่อนแอเมื่อใด ข้าพเจ้าก็จะแข็งแรงมากเมื่อนั้น” (2 โครินธ์ 12:10ข)
มีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่พระเจ้าทรงส่งมาโดยปราศจากตำหนิใดๆ ทั้งสิ้น นั่นคือ พระเมษโปดกของพระเจ้าที่ทรงปราศจากตำหนิและจุดด่างพร้อย (ดู 1 เปโตร 1:19) เป็นผู้เผยพระวจนะเช่นเดียวกับโมเสส แต่ยิ่งใหญ่กว่าโมเสส (ดู ฮีบรู 3:1-6) ผู้ทรงเป็นเหมือนเราทุกคนในแง่มุมต่างๆ ยกเว้นเพียงพระองค์ทรงปราศจากบาป (ดู ฮีบรู 4:14-16)
พระเยซูทรงสละพระองค์เองด้วยความยินดีและไม่เห็นแก่ตัว โดยการเชื่อฟังพระบิดา “ผู้ทรงมีพระประสงค์ให้คนทั้งปวงรอด และให้รู้ความจริง” (1 ทิโมธี 2:4) พระเยซูทรงเป็นผู้รับใช้และพระผู้ช่วยให้รอดของเรา! พระองค์ไม่ทรงเป็นคนพูดติดอ่างหรือพูดตะกุกตะกัก! จงมีความเชื่อในพระคริสต์และติดตามพระองค์ “พระองค์ทรงเป็นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็นความสว่างของมนุษย์” (ยอห์น 1:4)
เราอธิษฐาน: ขอพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ทรงอวยพรปากของข้าพระองค์ให้บอกคนอื่นๆ เกี่ยวกับพระเยซู อธิษฐานในพระนามของพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณเคยได้รับการขอให้ทำบางอย่างที่คุณสามารถทำได้แต่ก็ไม่อยากทำหรือไม่ ถ้าเคย อะไรคืออุปสรรคของคุณ
- ทำไมโมเสสจึงขัดขืนที่จะทำตามวิธีการของพระเจ้า อะไรที่ท่านต้องสูญเสีย
- จงยกตัวอย่างของการที่พระเจ้าทรงใช้คุณให้ช่วยเหลือผู้อื่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา
© : Lutheran Hour Ministries