สดุดี 131:1-3 – ข้าแต่พระเจ้า จิตใจของข้าพระองค์มิได้เห่อเหิม และนัยน์ตาของข้าพระองค์มิได้ยโส ข้าพระองค์มิได้ไปยุ่งกับเรื่องใหญ่โต หรือเรื่องอัศจรรย์เกินตัวของข้าพระองค์ แต่ข้าพระองค์ได้สงบและระงับจิตใจของข้าพระองค์อย่างเด็กที่หย่านมแล้วสงบอยู่ที่อกมารดาของตน จิตใจของข้าพระองค์สงบอยู่ภายในข้าพระองค์เหมือนอย่างเด็กที่หย่านมแล้ว อิสราเอลเอ๋ย จงหวังใจในพระเจ้าตั้งแต่กาลบัดนี้สืบไปเป็นนิตย์
เรื่องอะไรบ้างที่มักจะวนเวียนอยู่ในใจคุณบ่อยที่สุด คุณอาจกังวลเรื่องการเงิน การทะเลาะวิวาทในครอบครัว ปัญหาที่ทำงาน หรือปัญหาสุขภาพ สิ่งเหล่านี้กินพื้นที่ในความคิดของเราไปมาก บางทีเราอาจใช้เวลามากเกินไปกับการสงสัยว่าเหตุใดพระเจ้าจึงดูเหมือนจะไม่ทรงทำอะไรเลยเพื่อคลี่คลายสถานการณ์อันน่าหนักใจของเรา ผู้เขียนหนังสือสดุดีอาจเคยถูกล่อลวงด้วยความคิดทำนองเดียวกันนี้ พระเจ้าทรงทำอะไรเพื่อช่วยเขา ผู้เขียนสดุดีต้านทานการล่อลวงให้ตั้งคำถามถึงวิถีทางของพระเจ้า โดยกล่าวว่า “ข้าพระองค์มิได้ไปยุ่งกับเรื่องใหญ่โต หรือเรื่องอัศจรรย์เกินตัวของข้าพระองค์” จิตใจและสายตาของท่านมิได้เย่อหยิ่งในบาปจนเกินไป
ในยามทุกข์ยากและทุกเวลา เราอธิษฐานต่อพระเจ้าเรื่องความต้องการของเรา เราร้องทูลพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ ทูลขอให้พระองค์ทรงช่วยเหลือและช่วยเราให้รอด เรามั่นใจได้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักทรงปรารถนาจะฟังคำอธิษฐานของเรา เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับการจินตนาการว่าพระเจ้าจะทรงทำอะไร เพราะเรามั่นใจว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของเราตามพระประสงค์อันเปี่ยมด้วยพระกรุณาของพระองค์ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า “เพราะความคิดของเราไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา” (อิสยาห์ 55:8ก) ผู้เขียนสดุดีละทิ้งความคิดถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ไว้เบื้องหลัง และค้นพบความหวังอันเงียบสงบสำหรับจิตวิญญาณของท่านด้วยความไว้วางใจอย่างเรียบง่าย เราก็มีสันติสุขเช่นเดียวกันด้วยความไว้วางใจในพระเจ้าของเรา “เหมือนอย่างเด็กที่หย่านมแล้ว”
อัครสาวกเปาโลตระหนักดีถึงความเย่อหยิ่งอวดดีที่ทำให้เรายกจิตใจและความคิดขึ้นสูงเกินไป ท่านจึงถามว่า “เพราะว่าใครเล่ารู้จักพระทัยของพระเจ้าเพื่อจะแนะนำสั่งสอนพระองค์ได้ แต่เราก็มีพระทัยของพระคริสต์” (1 โครินธ์ 2:16) พระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงดำรงชีวิตด้วยความไว้วางใจอย่างเต็มเปี่ยมในพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ในสวนเกทเสมนี คืนก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงกางเขน พระเยซูทรงทูลขอพระบิดาให้ทรงช่วยพระองค์ให้พ้นจากถ้วยแห่งความทุกข์ทรมานที่รอคอยพระองค์อยู่ จากนั้น พระเยซูทรงวางใจอย่างเด็ก ทรงอธิษฐานขอให้พระประสงค์ของพระบิดาสำเร็จ พระเยซูทรงสงบพระทัยขณะที่ทรงฝากความหวังไว้ที่พระบิดา ต่อมาพระผู้ช่วยให้รอดทรงยืนขึ้นเผชิญหน้าผู้ที่มาจับกุมพระองค์และทรงแบกกางเขนของพระองค์เพื่อความรอดของเรา โดยความเชื่อ เรามีจิตใจของพระคริสต์ และเช่นเดียวกับพระผู้ช่วยให้รอด เราวางใจในพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ เราแสวงหาที่จะครอบครองจิตใจของเราด้วยความรักอันยิ่งใหญ่และอัศจรรย์ของพระผู้ช่วยให้รอด ในพระคริสต์เท่านั้น เรามีสันติสุขและความหวังอันเงียบสงบ “ตั้งแต่กาลบัดนี้สืบไปเป็นนิตย์”
เราอธิษฐาน: พระผู้ช่วยให้รอดที่รัก ขอทรงทำให้จิตวิญญาณของข้าพระองค์นิ่งสงบด้วยความรักมั่นคงของพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- พระเจ้าทรงสงบใจที่วุ่นวายและทุกข์ยากของเราอย่างไรเมื่อความกังวลครอบงำเรา
- เรารู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้าทรงทำการแทนเราแม้ว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปด้วยดี (ดู อิสยาห์ 41:10; เยเรมีย์ 29:11; และ โรม 8:28)
- พระเยซูทรงแสดงให้เห็นอย่างไรว่าพระองค์ทรงวางใจพระเจ้าพระบิดาทุกประการในคืนก่อนที่จะทรงถูกจับกุม
© : Lutheran Hour Ministries