สดุดี 1:1-2 – ความสุขเป็นของบุคคลผู้ไม่ดำเนินตามคำแนะนำของคนอธรรม หรือยืนอยู่ในทางของคนบาป หรือนั่งอยู่ในที่นั่งของคนที่ชอบเยาะเย้ย แต่ความปีติยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระธรรมของพระเจ้า เขาภาวนาพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน
ผู้เขียนสดุดีเริ่มต้นด้วยการบอกเราว่าอะไรที่ไม่ใช่บุคคลที่เป็นสุข บุคคลที่เป็นสุขจะไม่เข้าร่วมในพฤติกรรมของคนบาปและคนเยาะเย้ย หรือสนับสนุนแผนการชั่วร้ายของพวกเขา บุคคลที่เป็นสุขจะไม่เข้าร่วมในวิถีทางอธรรมของคนชั่ว แต่บุคคลที่เป็นสุขจะชื่นชมยินดีในธรรมบัญญัติหรือคำสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาใคร่ครวญพระวจนะอันล้ำค่าของพระเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืน เราอยู่ท่ามกลางผู้เป็นสุขเหล่านั้น เราปีติยินดีในพระวจนะ และโดยพระราชกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวจนะที่มีชีวิตและฤทธิ์เดชนั้นเปลี่ยนแปลงเรา บุคคลที่เป็นสุข “เขาเป็นเช่นต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล” (สดุดี 1:3ข) พระวจนะของพระเจ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรอื่นอีกบ้าง
การใคร่ครวญพระวจนะทำให้ความเชื่อเติบโตและนำไปสู่การปฏิบัติ พระเยซูตรัสว่าการฟังและปฏิบัติตามพระวจนะของพระองค์คือ การสร้างรากฐานที่มั่นคงบนศิลา ซึ่งจะต้านทานพายุแห่งชีวิตที่กำลังจะมาถึงอย่างแน่นอน (ดู มัทธิว 7:24-27) พระเยซูทรงบอกเหล่าสาวกให้ยึดมั่นในพระวจนะของพระองค์ รู้จักพระวจนะ และดำเนินชีวิตอยู่ในพระวจนะนั้น เมื่อทำเช่นนี้ เขาจะรู้จักความจริงเกี่ยวกับพระบุตรของพระเจ้าผู้เสด็จมาเพื่อปลดปล่อยเขาจากบาป (ดู ยอห์น 8:31-36) พระคัมภีร์ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงพระเยซู พระวาทะที่ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ พระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงนำชีวิตและความรอดมาให้เรา
อัครสาวกร่วมกับผู้เขียนสดุดีและพระเจ้าของเราในการเป็นพยานถึงอิทธิพลของพระวจนะของพระเจ้าที่เปลี่ยนแปลงชีวิต อัครสาวกเปาโลอธิบายว่าศิษยาภิบาลหนุ่มทิโมธีรู้จักพระคัมภีร์มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้เรามีปัญญาเพื่อความรอดโดยความเชื่อในพระเยซู (ดู 2 ทิโมธี 3:15-17) คำสอนในพระวจนะเตรียมเราให้พร้อมสำหรับการงานที่ดีทุกอย่าง ยากอบผู้เป็นน้องชายของพระเจ้าของเราแนะนำให้เรารับพระวจนะที่ปลูกฝังไว้ด้วยความอ่อนโยน เพราะพระวจนะที่ดีนั้นสามารถช่วยจิตวิญญาณของเราให้รอดได้ (ยากอบ 1:21) อัครสาวกยอห์นอธิบายถึงจุดประสงค์ของพระกิตติคุณที่ได้รับการดลใจจากพระวิญญาณของท่านว่า “การที่ได้บันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ ก็เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เชื่อว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้า และเมื่อมีความเชื่อแล้ว ท่านก็จะมีชีวิตโดยพระนามของพระองค์” (ยอห์น 20:31ข)
พระวจนะของพระเจ้าที่เราชื่นชมยินดีนั้นเป็นพระวจนะที่มีชีวิตและทรงฤทธิ์ ด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวจนะนั้นจึงทำงานในชีวิตของเรา โดยผ่านพระวจนะ เราจึงได้รับการเตรียมพร้อมให้บังเกิดผลแห่งการงานดีที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ชีวิตของเราตั้งอยู่บนรากฐานที่มั่นคงซึ่งต้านทานพายุแห่งชีวิตได้ เราได้รับการทำให้มีปัญญาเพื่อความรอด โดยรู้จักความจริงและวางใจในพระเยซู ผู้ทรงสิ้นพระชนม์และทรงคืนพระชนม์เพื่อปลดปล่อยเราจากบาป นั่นคือ พระวจนะที่เราชื่นชมยินดี พระวจนะที่เราใคร่ครวญทั้งกลางวันและกลางคืน เมื่อทำเช่นนี้เราได้รับความสุข!
เราอธิษฐาน: ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสอนข้าพระองค์ให้ค้นพบความเบิกบานในพระวจนะของพระองค์ และใคร่ครวญพระวจนะทั้งกลางวันและกลางคืน อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- มีตัวอย่างอะไรบ้างในชีวิตประจำวันของการยึดติดกับ “คำปรึกษาของคนชั่ว” การทำเช่นนี้เป็นอันตรายต่อความเชื่อของเราอย่างไร
- ขอให้บอกถึงประโยชน์บางประการที่ได้รับจากการศึกษา (และท่องจำ) พระคัมภีร์
- มีช่วงเวลาใดบ้างในแต่ละวันที่คุณสามารถใช้เวลา 5-10 นาทีในการนั่งสมาธิใคร่ครวญพระวจนะของพระเจ้า
© : Lutheran Hour Ministries