1 โครินธ์ 1:18-25 – คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่พวกเราที่กำลังจะรอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “เราจะทำลายสติปัญญาของคนมีปัญญาและจะทำให้ความฉลาดของคนฉลาดสูญสิ้นไป คนมีปัญญาแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหน บัณฑิตแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหน นักโต้ปัญหาแห่งยุคนี้อยู่ที่ไหน พระเจ้าได้ทรงกระทำปัญญาของโลกให้โฉดเขลาไปแล้ว เพราะตามที่ทรงกำหนดไว้ตามพระสติปัญญาของพระเจ้า โลกไม่รู้จักพระเจ้าได้โดยปัญญาของตน พระเจ้าจึงทรงโปรดช่วยคนที่เชื่อให้รอดโดยคำเทศนาเรื่องโง่ๆ พวกยิวขอเห็นหมายสำคัญ และพวกกรีกเสาะหาปัญญา แต่พวกเราประกาศเรื่องพระคริสต์ผู้ทรงถูกตรึงที่กางเขนนั้น อันเป็นสิ่งที่ให้พวกยิวสะดุด และให้พวกต่างชาติถือว่าเป็นเรื่องโง่ แต่สำหรับผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกนั้น ทั้งพวกยิวและพวกกรีกต่างถือว่า พระคริสต์ทรงเป็นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า เพราะความเขลาของพระเจ้ายังมีปัญญายิ่งกว่าปัญญาของมนุษย์ และความอ่อนแอของพระเจ้าก็ยังเข้มแข็งยิ่งกว่ากำลังของมนุษย์
ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าวางใจพระเจ้าได้ นั่นก็คือข้าพเจ้ามักจะทำอะไรผิดๆ อยู่ตลอดเวลา เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต และคิดว่าข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงกำลังทำอะไรในชีวิตข้าพเจ้าอยู่ แล้วทุกอย่างก็พลิกผันอย่างรวดเร็ว ข้าพเจ้าก็สับสนอีกครั้ง ข้าพเจ้าคิดว่าพระองค์ทรงกำลังทำบางอย่าง และข้าพเจ้าก็วางแผนจากสิ่งนั้น แต่ปรากฏว่าพระองค์กำลังทำอีกอย่างหนึ่ง แล้วข้าพเจ้าก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
หลังจากผ่านไปหลายปี ในที่สุดข้าพเจ้าก็เริ่มเคยชิน เพราะยังไงเสียข้าพเจ้าก็คงไม่เปลี่ยนแปลงพระองค์หรอก และที่น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีกที่ได้อยู่กับพระเจ้าผู้ทรงปรีชาญาณและทรงสร้างสรรค์กว่าข้าพเจ้า คำตอบที่พระองค์ทรงประทานมามักจะเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลย
ลองนึกถึงพระเยซูสิ ใครจะไปคาดคิดว่าพระเจ้าผู้สูงสุดจะทรงถ่อมพระทัยและเสด็จมาในโลกนี้ในฐานะทารกน้อยล่ะ เด็กทารกที่ไร้ทางช่วยเหลือตัวเองเพราะพระองค์ต้องพึ่งพานางมารีย์อย่างสิ้นเชิง ทั้งการกิน การหายใจ และการอุ้มท้องตลอดเก้าเดือนของการตั้งครรภ์ และต้องพึ่งพามารีย์และโยเซฟในการปกป้องและดูแลพระองค์ตลอดช่วงวัยเด็ก ซึ่งรวมถึงการลี้ภัยอยู่ในอียิปต์ด้วย ทำไมพระเจ้าต้องทรงเสี่ยงขนาดนั้น พระองค์ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
แล้วพระราชกิจของพระองค์ และการทนทุกข์ทรมานและการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนที่พระองค์ทรงเลือกเอง เหตุใดพระเจ้าผู้บริสุทธิ์และอมตะจึงทรงเลือกแบกรับบาปและความอับอายของเราไปสู่ความตายเพื่อเรา แต่กระนั้นพระองค์ก็ทรงทำเช่นนั้น และการฟื้นคืนพระชนม์ซึ่งทำลายอำนาจแห่งความตายเหนือทุกคนที่เชื่อในพระเยซูตลอดไป เพราะเราไม่สามารถแยกจากพระองค์ได้ หากพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ (และพระองค์ทรงพระชนม์อยู่) เราก็จะอยู่กับพระองค์ตลอดไปเช่นกัน พระองค์ทรงเลือกที่จะผูกมัดพระองค์เองกับเราชั่วนิรันดร์ ไม่ใช่เพียงในฐานะพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่ในฐานะญาติสนิทของเรา เพราะพระองค์มิได้ทรงสละธรรมชาติมนุษย์ของพระองค์
เปาโลมีสิทธิ์ประหลาดใจท่านกล่าวว่า “โอ พระปัญญาและความรอบรู้ของพระเจ้านั้นล้ำลึกเท่าใด ข้อตัดสินของพระองค์นั้นเหลือที่จะหยั่งรู้ได้ และทางของพระองค์ก็เหลือที่จะสืบเสาะได้ เพราะว่าใครเล่ารู้พระทัยของพระเจ้า หรือใครเล่าเป็นที่ปรึกษาของพระองค์” … เพราะสิ่งสารพัดมาจากพระองค์ โดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ ขอพระสิริจงมีแด่พระองค์สืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน (โรม 11:33-34, 36)
เราอธิษฐาน: องค์พระผู้เป็นเจ้า สิ่งที่พระองค์ทรงกระทำเพื่อข้าพระองค์ทำให้ข้าพระองค์อัศจรรย์ใจ ขอบพระคุณพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณชอบเรื่องที่น่าประหลาดใจหรือไม่ เพราะอะไร
- เมื่อไหร่ที่คุณเห็นพระเจ้าทรงทำบางอย่างที่น่าประหลาดใจในชีวิตของคุณ
- ความสร้างสรรค์ของพระเจ้าสะท้อนถึงความชื่นชมยินดีของพระองค์อย่างไร พระองค์ทรงแบ่งปันความชื่นชมยินดีนั้นกับคุณอย่างไร
© : Lutheran Hour Ministries