“จงมอบภาระของท่านไว้กับพระเจ้า และพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน พระองค์จะไม่ทรงยอมให้ คนชอบธรรมคลอนแคลนเลย”

ในปฐมกาลแรกเริ่มพระเจ้าทรงประทานความรับผิดชอบแก่เราทั้งหลายทุกคนนั้น ไม่ทรงให้เป็นภาระแก่มนุษย์ผู้หนึ่งผู้ใดเลย พระองค์ทรงจัดเตรียมทุกสิ่งไว้พร้อมเพียงพอแก่มนุษย์โดยไม่มีสิ่งใดบกพร่องขาดหายไปสักสิ่งเดียวเป็นความครบบริบูรณ์ทุกประการ สิ่งที่มนุษย์กระทำคือ ในทุกๆ วันดำเนินไปกับพระองค์ด้วยสันติสุขที่เต็มล้นในชีวิต แต่เราทั้งหลายกลับกระทำให้ตนเองต้องรับผิดชอบภาระที่ตนเองได้ก่อและสร้างขึ้นจากการไม่เชื่อฟังจึงเป็นเหตุให้ทุกคนต่างก็ต้องมีภาระรับผิดชอบ แต่ถึงกระนั้นพระเจ้าทรงพระเมตตาและมีความรักนิรันดร์มั่นคงดำรงเป็นนิตย์ พระองค์จึงได้ทรงประทานพระเยซูพระบุตรให้เข้ามาในโลกเพื่อรับเอาภาระทั้งหมดของมนุษย์ไว้ที่พระองค์ พระเจ้าจะทรงค้ำจุนทุกคนที่เชื่อวางใจในพระเยซู และมอบภาระทั้งสิ้นไว้กับพระองค์ แล้วพระเจ้าจะทรงดูแลท่าน เพราะความเชื่อนั้นพระเจ้าทรงนับเป็นความชอบธรรมในสายพระเนตรของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าที่รัก ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงตรัสอย่างชัดเจนว่า พระองค์ทรงรักข้าพระองค์ และพระเยซูพระบุตรก็ทรงตรัสอย่างชัดเจนเช่นกันว่า ให้ข้าพระองค์เรียนรู้จากพระองค์ เพราะพระองค์ทรงประทานภาระแก่ข้าพระองค์นั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับข้าพระองค์และสิ่งเหล่านั้นก็จะไม่เป็นภาระอีกต่อไปเมื่อข้าพระองค์มีพระองค์ทรงรับภาระนั้น ภาระนั้นจึงเบาสำหรับข้าพระองค์ที่วางใจในพระเยซูพระบุตรตามพระสัญญาของพระเจ้าพระบิดาผู้สูงสุด ในเวลานี้ข้าพระองค์เชื่อและวางใจในพระองค์ด้วยสุดใจของข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงรับภาระทั้งสิ้นของข้าพระองค์ไว้ และข้าพระองค์ขอมอบภาระทั้งสิ้นของข้าพระองค์ไว้กับพระองค์ ข้าพระองค์เชื่อในการค้ำจุนของพระองค์และรักอันมั่นคงของพระองค์ตลอดไปในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

จงมอบภาระของท่านไว้กับพระเจ้า และพระองค์จะทรงค้ำจุนท่าน พระองค์จะไม่ทรงยอมให้ คนชอบธรรมคลอนแคลนเลย – สดุดี 55:22