โรม 10:9 – ถ้าท่านจะรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในจิตใจว่า พระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์ให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด
นับตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม มนุษย์แสวงหาหนทางอันแรงกล้าที่จะหลีกหนีจากความตายนิรันดร์ เขาพยายามหลีกหนี “ค่าจ้างของความบาป” (โรม 6:23ก) โดยพยายามเปลี่ยนพระพิโรธของพระเจ้าให้เป็นความรัก เพื่อให้มั่นใจว่าความผิดบาปของตนได้รับการขจัดออกไปแล้ว แม้ว่าเขาพยายามเอาใจองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์และได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ด้วยวิธีการนับไม่ถ้วน แต่โดยพื้นฐานและท้ายที่สุดแล้ว มีเพียงสองวิธีที่คนบาปแสวงหาความรอดได้แก่ วิธีหนึ่งคือวิธีของมนุษย์ และอีกวิธีหนึ่งคือวิธีของพระเจ้า
การหลอกลวงและทำลายล้างคือการพยายาม “แสวงหา” สวรรค์ด้วยตัวเอง นั่นทำให้คนบาปต้องหวาดระแวงสงสัยอยู่เสมอว่าตนเองไม่ได้ทำสิ่งใดมากพอที่จะตอบสนองความยุติธรรมและความต้องการอันชอบธรรมของพระเจ้า สิ่งนี้ไม่ได้ให้ความหวังกับผู้ที่กำลังจะตาย แต่คือเป้าหมายที่สูญสิ้นไป ในทางตรงกันข้าม หนทางสู่ความรอดของพระเจ้า พระสัญญาของพระองค์ที่ประทานแก่คุณบอกว่า แม้คุณจะมีบาปและนิสัยที่ไม่ดี คุณก็สามารถมีสวรรค์ได้ซึ่งอธิบายไว้แล้วในข้อความของอัครสาวกเปาโลข้างต้นแล้ว
แต่การได้รับพระคุณของพระเจ้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ยาก คุณกำลังอยู่ในจุดที่ต้องยอมจำนนต่อซาตาน ผู้ซึ่งกระซิบว่าบาดแผลที่เกิดจากความผิดบาปของคุณนั้นหนักเกินกว่าจะเยียวยาได้หรือไม่ คุณมองชีวิตตัวเองด้วยความหมดหวังและสิ้นหวังหรือไม่ คุณสงสัยหรือไม่ว่ามีเหตุผลใดที่จะดำเนินชีวิตต่อไป เพื่อให้มีชีวิตไปวันๆ ที่คุณต้องพบกับความไร้ประโยชน์ในทุกย่างก้าว
คำตอบคือใช่ มีเหตุผลทุกอย่างที่จะดำเนินต่อไป
ฉะนั้น จงเรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วอัครสาวกหมายความว่าอย่างไรเมื่อท่านกล่าวว่า “ถ้าท่านจะรับด้วยปากของท่านว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า”! สิ่งนี้ต้องมีมากกว่าการยอมรับว่าชายผู้กล้าหาญคนหนึ่งชื่อเยซูเคยอาศัยอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์อันห่างไกล และมากกว่าการยอมรับว่าพระองค์ทรงเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ ผู้นำที่ทรงอิทธิพล และผู้มีนิมิตด้วยแนวคิดสุดโต่ง
การ “รับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า” หมายความว่าคุณต้อนรับพระองค์ไม่เพียงแต่ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนที่พระเจ้าทรงทอดทิ้งพระองค์ด้วย พระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอด พระผู้ไถ่ และพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ ที่กางเขนคุณควรทราบว่าพระเยซู “ท่านได้ถูกมนุษย์ดูหมิ่นและทอดทิ้ง เป็นคนที่รับความเจ็บปวด” (อิสยาห์ 53:3ก) ทรงทนทุกข์ทรมานจากคำสาปแช่ง ความอับอาย ความเจ็บปวด ความหวาดกลัวในจิตใจ และความตายที่มืดมนและน่าสยดสยองที่สุด เพราะพระองค์ทรงรักคุณด้วยความทุ่มเทอันไม่มีที่สิ้นสุด
พระเยซูเสด็จมาในโลกนี้เพื่อทรงเลือกหนทางเดียวที่จะสนองพระบัญญัติของพระเจ้าและไถ่บาปของคุณ นั่นคือ พระองค์ทรงสละพระองค์เองเพื่อคุณ พระองค์เสด็จไปที่กางเขนแทนคุณ ทรงทนทุกข์แทนคุณ และสิ้นพระชนม์แทนคุณ ความเมตตาอันน่าอัศจรรย์ของพระองค์ทรงมีต่อเราแต่ละคนไม่ว่าเราจะอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หรูหราหรือในเรือนจำ ความรักของพระองค์ไร้ขอบเขต ไม่มีข้อจำกัด และไม่มีสิ่งใดที่จะขัดขวางพระองค์ไม่ให้เข้าถึงเราได้ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพใด
เราอธิษฐาน: พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ที่รัก มีคนมากมายที่ไม่รู้จักพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงเป็นพระผู้ไถ่ของเขา โปรดทรงสัมผัสจิตใจของผู้ที่ยังไม่ได้รับการไถ่ เพื่อเขาจะได้รู้จักพระองค์และพระบุตรที่พระองค์ทรงส่งมาเพื่อช่วยเราให้รอด อธิษฐานในพระนามของพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณเคยรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนช่วยในความรอดของคุณหรือไม่
- อะไรที่ฉุดรั้งผู้คนไว้จากการรับของประทานแห่งพระคุณของพระเจ้า
- คุณเคยรู้สึกว่าตัวเองอยู่นอกเหนือความรักของพระเจ้าหรือไม่ นั่นเป็นสถานการณ์ที่คุณสร้างขึ้นเองหรือไม่
© : Lutheran Hour Ministries
