กันดารวิถี 14:2ก, 4, 11-12ก, 13ก, 15-16, 19 – บรรดาคนอิสราเอลได้บ่นว่า … เขาพูดแก่กันและกันว่า “ให้เราตั้งคนหนึ่งขึ้นเป็นหัวหน้า แล้วกลับไปยังอียิปต์เถิด” … และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ชนชาตินี้จะสบประมาทเรานานสักเท่าใด แม้ว่าเราได้กระทำการอัศจรรย์สำคัญท่ามกลางเขามาแล้ว เขาทั้งหลายจะไม่เชื่อเรานานเท่าใด เราจะประหารเขาเสียด้วยโรคร้าย และตัดเขาเสียจากการสืบมรดก …” แต่โมเสสได้กราบทูลพระเจ้า “ … ถ้าพระองค์จะทรงประหารชนชาตินี้ดุจคนๆ เดียว ประเทศทั้งหลายที่ได้ยินกิตติศัพท์ถึงพระองค์จะพูดกันว่า ‘เพราะพระเจ้าพาชนชาตินี้ไปถึงแผ่นดินที่พระองค์ทรงสัญญาไว้แก่เขานั้นไม่ได้ พระองค์จึงทรงประหารเขาเสียที่ในถิ่นทุรกันดาร’ … ขอทรงประทานอภัย ความผิดของชนชาตินี้ตามความยิ่งใหญ่แห่งความรักมั่นคงของพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงประทานอภัยชนชาติ นี้ตั้งแต่อียิปต์จนบัดนี้”
นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในพระคัมภีร์ รองจากการตรึงกางเขนและการคืนพระชนม์ของพระเยซู เรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่โครงการสวนเอเดนของพระเจ้าล้วนนำไปสู่ช่วงเวลานี้ อาดัมและเอวาล้มเหลวในการเดินเคียงข้างพระเจ้าและทำงานเคียงข้างพระองค์ในสวนเอเดน พระเจ้าจึงทรงเริ่มต้นใหม่ พระองค์ทรงเลือกครอบครัวหนึ่ง คือชนชาติอิสราเอล และเดินไปกับพวกเขา เพื่อให้พวกเขาเดินกับเราเข้าสู่สวนเอเดนของพระเจ้า พระเจ้าทรงช่วยอิสราเอลให้พ้นจากการเป็นทาส ทรงนำพวกเขาไปยังชายแดนของแผ่นดินที่พระองค์ทรงสัญญาไว้คือ สวนเอเดนที่รุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์
แล้วความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้น ผู้คนอยากกลับไปเป็นทาสอีกครั้ง สมควรที่พระเจ้าจะพิโรธ พระองค์ทรงต้องการเริ่มต้นใหม่กับผู้คนใหม่ โมเสสโต้เถียงกับพระเจ้า “โอ้ จงให้อภัยพวกเขาอีกครั้งเถิด ทำไมพระองค์ไม่ทรงให้อภัย” บางทีโมเสสอาจเริ่มคิดว่าการให้อภัยของพระเจ้าเป็นเพียงพิธีการเท่านั้น ก็แค่ให้อภัยเถิดพระเจ้า นั่นคือ สิ่งที่พระองค์ทรงทำใช่ไหม พระองค์ทรงรักที่จะให้อภัย เราชอบทำบาป ทุกคนทำได้! แค่ทรงเลี้ยงดูเราแล้วปล่อยให้เรากลับบ้านไป
คุณเคยเล่นเกมเค้กดนตรีไหม ซึ่งก็เหมือนๆ กับเก้าอี้ดนตรี แต่มีเค้ก ทุกคนเป็นผู้ชนะ การเดิน เสียงเพลง ล้วนเป็นวีธีการ เพราะทุกคนกลับบ้านพร้อมเค้ก แต่ไม่เป็นแบบนั้นกับพระเจ้า
พระเจ้าทรงอภัยให้ประชากรของพระองค์ และทรงให้เขารับผิดชอบ เขากล่าวว่าเขาขอตายในถิ่นทุรกันดารดีกว่า และนั่นคือสิ่งที่เขาจะทำในอีก 40 ปีข้างหน้า เขาจะผ่านพ้นความยากลำบากและรับรู้ถึงผลที่ตามมาจากการตัดสินใจของตนเอง และบางทีเขาอาจได้เรียนรู้อะไรบางอย่างระหว่างทางเพราะการให้อภัยไม่ใช่วิธีการของพระเจ้า การให้อภัยคือ การสร้างรากฐาน
จุดเปลี่ยนของพระคัมภีร์คือ ไม้กางเขนและการคืนพระชนม์ของพระเยซู พระเยซูเสด็จเข้าสู่การทดลองที่ทรหดพร้อมกับเรา สู่ความเวิ้งว้างแห่งบาปของโลก พระองค์ทรงทนทุกข์ทรมานอย่างที่สุดและทรงผ่านพ้นมาได้เพื่อนำเราให้ผ่านพ้นมาได้ เพื่อที่เราจะได้รับการอภัย เพราะพระเจ้าทรงรักเรา
พระเจ้าทรงรักคุณมากพอที่จะให้อภัยคุณและปั้นคุณให้เป็นคนที่เดินไปกับพระองค์และทำงานเคียงข้างพระองค์ในสวนของพระองค์ตลอดไป ในชีวิตที่ต้องตายนี้ เราจะต้องทนทุกข์ทรมานกับผลของบาปของเราและของผู้อื่นจนกว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมา เราจะต้องตายในถิ่นทุรกันดารนี้ แต่กับพระเยซูแล้วผลที่ตามมานั้นไม่ถาวร โครงการสวนเอเดนของพระเจ้าไม่ได้ล้มเหลว คุณไม่ใช่ผู้ล้มเหลว คุณเป็นที่รัก และพระบิดาทรงกำลังปั้นแต่งคุณ การไปถึงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพราะพระคริสต์ทรงผ่านกระบวนการอันยากลำบาก ทุกคนในพระองค์จึงได้รับชัยชนะ และทุกคนได้เรียนรู้
เราอธิษฐาน: พระบิดาเจ้าข้า โปรดทรงสร้างข้าพระองค์ให้เป็นพระฉายาของพระบุตรของพระองค์ ในพระนามของพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- เมื่อไหร่ที่ “เรื่องง่ายๆ” กลายเป็น “ความท้าทาย” สำหรับคุณ นั่นคือ สิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะเป็นกิจวัตร แต่กลับกลายเป็นเรื่องท้าทายและเปลี่ยนแปลงชีวิต เรื่องนั้นเกิดขึ้นกับคุณเมื่อไหร่
- มีการวางแผนกิจกรรมบางอย่าง (เช่น โรงเรียน การพักผ่อน การสัมมนา) และบางอย่างก็สร้างความประหลาดใจ อะไรที่ทำให้ประสบการณ์แต่ละครั้งมีคุณค่า อะไรที่ทำให้ประสบการณ์เหล่านั้นแตกต่าง
- อ่านหรือฟังกันดารวิถีบทที่ 13 และ 14 ทั้งหมด คำหรือวลีใดที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคุณ พระเจ้ากำลังตรัสกับคุณผ่านกิจกรรมนั้นอย่างไร
© : Lutheran Hour Ministries