“ขอพระองค์ทรงหันมายังข้าพระองค์ และมีพระกรุณาต่อข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ว้าเหว่ และเป็นทุกข์อยู่”

พระเจ้ามิได้ทรงประทานความว้าเหว่ให้กับเราทั้งหลาย ในครั้งแรกที่พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงสร้างคู่อุปถัมภ์ อีกทั้งทรงเสด็จมาดำเนินไปร่วมกับพวกเขาทุกวัน แต่มนุษย์เองกลับเลือกออกไปจากการทรงสถิตอยู่ด้วยของพระองค์หันไปติดตามการล่อลวงของมารซาตาน จนในที่สุดก็ถูกตัดขาดจากพระเจ้า และถูกทอดทิ้งจากมารในที่สุดเมื่อหมดประโยชน์ให้มัน เป็นเหตุให้เราทั้งหลายรู้สึกถึงความว้าเหว่  อ้างว้าง โดดเดี่ยว เดียวดาย เป็นผู้ถูกทอดทิ้งอย่างน่าสมเพช ไม่มีความโศกเศร้าใดที่ครอบงำจิตใจได้มากไปกว่าความคิดที่ว่าเราอยู่คนเดียวในโลก เราไม่มีเพื่อน ไม่มีใครห่วงใยเรา ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับเรา หรือไม่มีใครสนใจถ้าเราจะต้องตาย ซึ่งดาวิดได้สะท้อนภาพให้เราได้เห็นถึงความจริงนี้ ไม่มีใครรู้สึกเหงาได้มากไปกว่าดาวิด ในการวิงวอนต่อพระเจ้าอย่างจริงจังและจริงใจ ดาวิดร้องออกมาด้วยความอ้างว้างและสิ้นหวัง ลูกชายของเขาเองลุกขึ้นต่อต้านเขา คนอิสราเอลไล่ตามเขา และเขาถูกบังคับให้หนีออกจากเมืองรวมทั้งทิ้งบ้านและครอบครัวของเขา ด้วยความโดดเดี่ยวและเป็นทุกข์อยู่นั้น หนทางเดียวของเขาคือ การหันไปหาพระเจ้า วิงวอนขอพระเมตตาและการแทรกแซงจากพระเจ้า เพราะความหวังเดียวของเขาอยู่ในพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้าที่รัก ข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์ทรงห่วงใยและรักข้าพระองค์เสมอ แต่เพราะข้าพระองค์เองที่เป็นคนออกห่างจากพระองค์ เพื่อดำเนินชีวิตตามใจปรารถนาของตัวเอง และตามการล่อลวงของมาซาตาน ในเวลานี้ข้าพระองค์สำนึกถึงความรู้สึกว้าเหว่แล้ว ขอพระองค์ทรงเมตตาหันมายังข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระกรุณาต่อข้าพระองค์ ขอทรงให้ข้าพระองค์พ้นจากความว้าเหว่และความทุกข์ที่เกิดขึ้นแก่ข้าพระองค์ ด้วยการทรงสถิตในชีวิต ในจิตใจของข้าพระองค์อีกครั้ง เพื่อข้าพระองค์จะได้รับความอบอุ่นทั้งกายใจอีกครั้งในพระองค์ด้วยเถิด ข้าพระองค์ทูลวิงวอนต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

ขอพระองค์ทรงหันมายังข้าพระองค์ และมีพระกรุณาต่อข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ว้าเหว่ และเป็นทุกข์อยู่ – สดุดี 25:16

ชื่อ-ที่อยู่-ที่ติดต่อ

Comments are closed.