ธรรมชีวิตประจำวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2025 “ได้รับการคุ้มครอง”

สดุดี 121:5-7 – พระเจ้าทรงเป็นผู้อารักขาท่าน พระเจ้าทรงเป็นที่กำบังที่ข้างขวามือของท่าน ดวงอาทิตย์จะไม่โจมตีท่านในเวลากลางวัน หรือดวงจันทร์ในเวลากลางคืน พระเจ้าจะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น พระองค์จะทรงอารักขาชีวิตของท่าน

กษัตริย์เปอร์เซียโบราณได้รับการคุ้มครองโดยองครักษ์ส่วนตัวที่เรียกว่า “หมื่นนักรบอมตะ” แน่นอนว่านักรบเหล่านี้ไม่ได้เป็นอมตะ แต่เมื่อใดที่นักรบคนใดคนหนึ่งถูกสังหาร เหล่าทหารใหม่ก็เข้ามาแทนที่ทหารที่เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าทหารเหล่านั้นไม่ตาย เราไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์นับหมื่นคนเพื่อปกป้องเราจากความชั่วร้าย เราต้องการเพียงผู้พิทักษ์คนเดียวที่แท้และเป็นอมตะ “พระเจ้าทรงเป็นผู้อารักขาท่าน” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้พิทักษ์ ผู้ปกป้อง และโล่ส่วนตัวของเรา พระองค์ยังทรงเป็นร่มเงาที่มือขวาของเราตามที่ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีกล่าวไว้ เราอาจไม่คิดถึงการได้รับการปกป้องจากแสงแดดมากนัก แต่ในดินแดนทะเลทราย ร่มเงาคือสถานที่แห่งความปลอดภัยของชีวิตและการพักผ่อน พระเจ้าของเราทรงมอบการพักผ่อนและการปกป้องนั้นให้แก่เรา

“พระเจ้าจะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น” ในคำอธิษฐานของพระเจ้า เราขอความช่วยเหลือและการปกป้องจากพระเจ้า “ขอทรงช่วยเราให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย” อะไรคือสิ่งชั่วร้ายที่คุกคามเรา โลกรอบตัวเราเต็มไปด้วยสิ่งดีๆ เรามีความสุขกับของขวัญจากบ้าน ครอบครัว และมิตรสหาย เราชื่นชมยินดีในความงดงามและความยิ่งใหญ่ของสิ่งทรงสร้างของพระเจ้า กระนั้นเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความชั่วร้ายอยู่ในโลก ความรุนแรง อาชญากรรม สงคราม และการทะเลาะวิวาท ล้วนแปดเปื้อนการทรงสร้างที่ดีงามของพระเจ้า และบางครั้งความชั่วร้ายเหล่านั้นก็โจมตีใกล้ตัวเรา ความชั่วร้ายและความมืดมิดทางโลกที่เราเผชิญเป็นการแสดงออกภายนอกของความชั่วร้ายทางวิญญาณ “ด้วยว่าศัตรูของท่านคือมารวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงห์คำรามเที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ จงต่อสู้กับศัตรูนั้นด้วยใจมั่นคงในความเชื่อ” (1 เปโตร 5:8ข-9ก) เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงต้านทานการล่อลวงของซาตาน เราก็ต้านทานมารและวิถีทางชั่วร้ายของมันได้เช่นกัน ด้วยความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจึงยืนหยัดมั่นคงในความเชื่อ ได้รับการดูแลให้ปลอดภัยจากพระเจ้า ผู้ทรงเป็นผู้ดูแลและปกป้องเรา

พระเจ้าของเราทรงคุ้มครองเราให้ปลอดภัยจากมารร้าย เพราะพระเยซูทรงยอมให้อำนาจแห่งความมืดและความชั่วร้ายเอาชนะพระองค์ชั่วระยะหนึ่ง พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ทรงรับโทษแทนบาปของเราและความชั่วร้ายทั้งมวลของโลก พระองค์ทรงถูกฝังไว้ในอุโมงค์ฝังศพที่มืดมิด ต่อมาในวันที่สามหลังจากการสิ้นพระชนม์ พระเยซูทรงคืนพระชนม์ด้วยชัยชนะเหนือบาป ความตาย และมาร เราอธิษฐานด้วยพระดำรัสของพระเยซูเองว่า “ขอทรงช่วยเราให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย” เพราะรู้ว่าคำวิงวอนของเราได้รับคำตอบแล้วก่อนที่เราจะเอ่ยพระดำรัสนั้นเสียอีก ด้วยความเชื่อมั่นในพระเจ้าผู้ทรงถูกตรึงกางเขนและคืนพระชนม์ ผู้ทรงเป็นผู้ปกป้องและร่มเงาของเรา เราสามารถกล่าวได้เช่นเดียวกับอัครสาวกเปาโลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการร้ายทุกอย่าง และจะทรงช่วยข้าพเจ้าให้รอดเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ของพระองค์ พระสิริจงมีแด่พระองค์สืบๆ ไปชั่วนิตย์นิรันดร์ อาเมน” (2 ทิโมธี 4:18)

เราอธิษฐาน: ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย และรักษาข้าพระองค์ไว้ในการดูแลของพระองค์ อาเมน

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:

  1. ทำไมเราต้องการผู้พิทักษ์รักษาและผู้ปกป้องในโลกนี้
  2. เมื่อไหร่คือครั้งล่าสุดที่คุณต้องการความช่วยเหลือและความปลอดภัยของพระเจ้า
  3. เรารู้ได้อย่างไรว่าพระเยซูทรงมีชัยเหนือบาป ความตายและมารร้าย

© : Lutheran Hour Ministries

Comments are closed.