“พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกสาวก และตรัสว่า ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง”

เราพึ่งพาพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นทุกสิ่งที่ใจเราต้องการ เราเชื่อในพระองค์ เพราะพระองค์ทรงบันดาลทุกสิ่งที่เกินความเข้าใจของเรา เรานมัสการองค์พระเจ้ายิ่งใหญ่ เพราะไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่าพระองค์จะทรงทำ องค์พระเจ้ายิ่งใหญ่และไม่มีใครเทียบได้กับพระองค์ เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้ นี่คือความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่สำหรับมนุษย์นั้นเต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมายที่มนุษย์เองไม่สามารถกระทำบางสิ่งบางอย่างได้ด้วยตัวเอง มนุษย์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการพึ่งพาพระเจ้า ด้วยเหตุนี้เอง มนุษย์จึงไม่สามารถขาดจากการดูแลและการช่วยเหลือที่มาจากพระเจ้าได้เลย เพราะมนุษย์ไม่สามารถช่วยตัวเองให้พ้นจากความผิดและความบาปได้ มีเพียงหนทางเดียวคือ ผ่านทางองค์พระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ที่จะทรงนำมนุษย์ให้พ้นจากความผิดบาป เช่นกัน ลมหายใจมนุษย์ไม่สามารถสร้างและเพิ่มเติมลมหายใจได้แม้แต่วินาทีเดียว มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงกระทำได้ ยังมีสิ่งทรงสร้างไม่ว่าจะเป็นดวงจันทร์ ดวงดาว และดวงอาทิตย์ มนุษย์ก็ไม่สามารถประดิษฐ์ และที่สำคัญที่สุดคือ แผ่นดินสวรรค์ มนุษย์ไม่สามารถสร้างหรือกำหนดให้กับตัวเองได้ มีเพียงพระเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้าของสวรรค์เท่านั้นที่ทรงประทานให้ได้อันเป็นพระคุณของพระองค์แก่ทุกคน

ข้าแต่พระเจ้า ในชีวิตของข้าพระองค์มีข้อจำกัดมากมายที่ทำให้ข้าพระองค์ไม่สามารถกระทำหรือดำเนินสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะความผิดความบาปที่ข้าพระองค์ทั้งหลายไม่สามารถลบล้าง หรือกระทำสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนเพื่อพ้นจากความผิดบาปและการพิพากษาโทษได้ มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ทรงประทานให้ได้ ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตาข้าพระองค์ด้วยเถิด ขอให้ข้าพระองค์ได้รับการช่วยให้รอดที่มาจากพระองค์ ได้รับการไถ่ที่มาจากพระองค์ ได้รับการชำระที่มาจากพระองค์ ขอพระองค์ทรงประทานสิทธิในการเป็นบุตรของพระองค์ เพื่อจะรับมรดกแห่งแผ่นดินของพระองค์บนสวรรค์นั้น ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้แก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย เพราะไม่มีผู้ใดประทานแก่ข้าพระองค์ได้นอกจากพระองค์ ข้าพระองค์ขอพึ่งพาพระองค์และอธิษฐานทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

พระเยซูทอดพระเนตรดูพวกสาวก และตรัสว่า ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่พระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง – มัทธิว 19:26