มาระโก 1:14-20 – ครั้นยอห์นถูกอายัดแล้ว พระเยซูได้เสด็จมายังแคว้นกาลิลี ทรงเทศนาประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้า และตรัสว่า “เวลากำหนดมาถึงแล้ว และแผ่นดินของพระเจ้าก็มาใกล้แล้ว จงกลับใจเสียใหม่ และเชื่อข่าวประเสริฐเถิด” ขณะที่พระองค์เสด็จไปตามชายทะเลสาบกาลิลีก็ทอดพระเนตรเห็นชาวประมงสองคนคือซีโมนและอันดรูว์น้องของซีโมนกำลังทอดแหอยู่ที่ทะเลสาบ พระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงตามเรามาเถิด และเราจะตั้งท่านให้เป็นผู้หาคนดังหาปลา” เขาก็ละแหตามพระองค์ไปทันที ครั้นพระองค์ทรงดำเนินต่อไปหน่อยหนึ่งก็ทอดพระเนตรเห็นยากอบ บุตรเศเบดีกับยอห์นน้องชายของเขากำลังชุนอวนอยู่ในเรือ ในทันใดนั้นพระองค์ได้ทรงเรียกเขา เขาจึงละเศเบดีบิดาของเขาไว้ที่เรือกับลูกจ้างและได้ตามพระองค์ไป
ลองสังเกตวิธีที่พระเยซูทรงทำให้การเป็นสาวกเป็นเรื่องส่วนตัว พระองค์ทรงพบชายสี่คนนี้ในที่ทำงาน ของเขาซึ่งเขาเป็นชาวประมงโดยอาชีพ สำหรับสี่คนนี้คือ ซีโมน ซึ่งเรารู้จักดีที่สุดในชื่อเปโตร อันดรูว์ ยากอบ และยอห์น พระเยซูทรงสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัว พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้เขาเข้ามามีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดทรงปรารถนาให้เขาเข้าใจถึงการกลับใจ ความเชื่อ และข่าวดีของพระเจ้า แล้วจึงแบ่งปันสิ่งเหล่านี้กับผู้อื่น
แน่ชัดว่า เหล่าสาวกได้รับพรอย่างแน่นอนที่เห็นพระเยซูแบบหน้าต่อหน้า แต่เราใช้เวลากับพระเยซูอย่างไร ตอนนี้เปโตรและคนอื่นๆ พูดคุยกับพระเยซู เดินกับพระองค์ และหัวเราะกับพระองค์ แต่ทุกวันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วใช่ไหม แล้วเราใช้เวลากับพระเจ้าอย่างไร เราจะมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวกับองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ได้อย่างไร คำตอบคือ เมื่อคุณใช้เวลากับพระวจนะของพระองค์ ดำดิ่งลงไป ขุดลึกลงไป ค้นหาความจริงที่อยู่ในพระวจนะอย่างลึกซึ้ง (ดู สดุดี 119:160; 2 ทิโมธี 3:16)
น่าเศร้าที่เราเห็นในพระกิตติคุณมาระโกว่า เปโตรและคนอื่นๆ ไม่เข้าใจจริงๆ เขาไม่เข้าใจข่าวสารของพระเยซูเกี่ยวกับความเชื่อที่กลับใจใหม่ในข่าวประเสริฐ เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นกับคุณและข้าพเจ้าเช่นกัน เราต่อต้านการยอมให้พระเยซูเป็นพระเจ้าของเราตรงไหน ตรงไหนที่เราไม่กลับใจ ตรงไหนที่เราวางใจในสิ่งซึ่งมองเห็น ไม่ใช่ด้วยความเชื่อ ท่ามกลางใจที่ดื้อรั้นของเรา เสียงร้องของเราต้องเป็นเสียงร้องว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงค้นดูข้าพระองค์และทรงทราบจิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงลองข้าพระองค์และทรงทราบความคิดของข้าพระองค์ และทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในมรรคานิรันดร์ (สดุดี 139:23-24)
คุณรู้ไหมว่าเหล่าสาวกเข้าใจเรื่องนี้ได้เมื่อใด การคืนพระชนม์! ตอนนั้นเองที่เปโตรและเหล่าสาวกเข้าใจพระดำรัสของพระเยซู และสำหรับเราในปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน บัดนี้ เรามีประจักษ์พยานของเหล่าสาวกของพระเยซูที่เขียนไว้เพื่อสั่งสอนเรา ชี้ให้เราเห็นถึงกางเขนและการให้อภัยที่พระเจ้าประทานแก่เราในที่นั้น ที่จริงแล้ว ทุกครั้งที่เราอ่านพระคัมภีร์ พระวิญญาณของพระเยซูคริสต์เจ้าผู้คืนพระชนม์จะประทับอยู่ ทรงนำเรา ทรงทำงานในใจเราให้เกิดการกลับใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและมีความเชื่อในข่าวประเสริฐของพระเจ้า
เราอธิษฐาน: พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ โปรดทรงนำเราเข้าสู่พระวจนะของพระองค์ และความสว่างของพระเยซูพระบุตรของพระองค์ อธิษฐานในพระนามของพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณเคยได้รับการเลือกให้ทำงานพิเศษในที่ทำงานหรือโรงเรียนบ้างไหม งานนั้นคืออะไร
- จากสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับสาวกของพระเยซู คุณคิดว่าเขาเหล่านั้นเป็นคนแบบไหน
- เหตุใดการคืนพระชนม์ของพระเยซูจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา
© : Lutheran Hour Ministries