สดุดี 5:1-3 – ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเอียงพระโสตสดับถ้อยคำของข้าพระองค์ ขอทรงฟังเสียงคร่ำครวญของข้าพระองค์ ข้าแต่พระบรมกษัตริย์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอทรงฟังเสียงร้องทูลของข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์อธิษฐานทูลต่อพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ในเวลาเช้าพระองค์ทรง สดับเสียงของข้าพระองค์ซึ่งข้าพระองค์เตรียมถวายเครื่องสักการบูชาแด่พระองค์และเฝ้าคอยดูอยู่
การยื่นคำร้องต่อหน่วยงานราชการ หรือการขอเปลี่ยนแปลงกฎหมาย หรือนโยบายอาจไม่ใช่เรื่องง่าย การถมหลุมบ่อบนถนนหรือเปลี่ยนป้ายจราจรอาจต้องใช้เวลานาน คำร้องเหล่านี้ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็อาจต้องใช้จดหมายราชการ คำร้องที่มีลายเซ็นหลายร้อยหรือหลายพันฉบับ หรือคะแนนเสียงจากสมาชิกสภาอาจมีขั้นตอนราชการที่ซับซ้อนซึ่งต้องทำตาม
ผู้เขียนสดุดีมีคำขอ หรือที่จริงแล้วคือ ข้อเรียกร้อง ท่านไม่ได้พยายามรวบรวมลายเซ็นในคำร้อง หรือขอการสนับสนุนจากสมาชิกสภา หากมีช่องทางราชการ ท่านก็จะเลี่ยงช่องทางเหล่านั้น เพราะท่านมุ่งตรงไปยังจุดสูงสุด เรียกร้องให้เข้าเฝ้าพระราชา พระเจ้าพระองค์เอง โดยกล่าวว่า “ขอทรงฟังเสียงคร่ำครวญของข้าพระองค์ ข้าแต่พระบรมกษัตริย์ พระเจ้าของข้าพระองค์” ผู้เขียนสดุดีถวายเครื่องบูชาแห่งการอธิษฐานต่อหน้าพระที่นั่งของพระเจ้า และรอคอยคำตอบที่ตามมาอย่างแน่นอน หนทางนี้เปิดกว้างเสมอ ดังที่บทสดุดีอื่นๆ เป็นพยานว่า “ทั้งเวลาเช้า เวลาเย็น และเวลาเที่ยง ข้าพเจ้าร้องทุกข์และคร่ำครวญ และพระองค์จะทรงฟังเสียงของข้าพเจ้า” (สดุดี 55:17) เรามีสิทธิพิเศษเช่นเดียวกันนี้ในการเข้าเฝ้าหน้าพระที่นั่งของพระเจ้าโดยตรง เราสามารถนำคำร้องขอของเราไปยังพระเจ้า และพระองค์จะทรงสดับฟังและตอบเราไม่ว่าเวลาใด ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน
การเข้าถึงโดยทันทีนี้เราได้รับมาเป็นของขวัญ โดยผ่านทางพระบุตรของกษัตริย์ คือ พระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา ด้วยการเชื่อฟังพระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์และด้วยความรักที่พระองค์ทรงมีต่อโลก พระเยซูจึงทรงสละราชบัลลังก์สวรรค์เพื่อมาบังเกิดเป็นมนุษย์ท่ามกลางพวกเรา พระองค์ทรงยอมจำนนต่อการพิพากษาอันไม่ยุติธรรมของผู้ปกครองบนโลก ไม่มีการยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการพร้อมลายเซ็นนับพันเพื่อพยายามช่วยเหลือพระองค์ พระเยซูทรงสวมมงกุฎหนามเพื่อเยาะเย้ยความเป็นกษัตริย์ของพระองค์ และถูกตรึงบนไม้กางเขน เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ ม่านพระวิหารที่ปกปิดสถานที่บริสุทธิ์ที่สุดซึ่งเป็นสถานที่ประทับของพระเจ้าก็ถูกฉีกออกเป็นสองท่อน โดยทางพระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงถูกตรึงกางเขนและคืนพระชนม์ หนทางสู่พระเจ้าจึงเปิดออก มีช่องทางอย่างเป็นทางการเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น มีเพียงช่องทางเดียวที่จะเข้าถึงราชบัลลังก์สวรรค์ นั่นคือ ผ่านทางความเชื่อในพระเยซู มหาปุโรหิตของเรา ดังที่ผู้เขียนหนังสือฮีบรูอธิบายไว้ว่า “เพราะว่าเรามิได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ได้ทรงถูกทดลองใจเหมือนอย่างเราทุกประการ ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป ฉะนั้น ขอให้เราทั้งหลายจงมีใจกล้าเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณ เพื่อเราจะได้รับพระเมตตาและจะได้รับพระคุณที่จะช่วยเราในขณะที่ต้องการ” (ฮีบรู 4:15-16) กษัตริย์ทรงเชื้อเชิญให้เราอธิษฐาน พระองค์ทรงสดับฟังและจะทรงตอบคำอธิษฐานตามพระประสงค์ของพระองค์
เราอธิษฐาน: กษัตริย์และพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบว่าพระองค์จะทรงฟังและตอบคำอธิษฐานของข้าพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- การที่พระเจ้าทรงใส่ใจคำขอของเราต่อพระองค์นั้นบอกอะไรเกี่ยวกับพระเจ้า
- เหตุใดพระเยซูจึงทรงสามารถ “เห็นอกเห็นใจในความอ่อนแอของเรา” สิ่งนี้บอกอะไรเกี่ยวกับความรู้ที่พระองค์ทรงมีต่อเรา
- การรู้ว่าพระเจ้าทรงต้องการให้คุณอธิษฐานถึงพระองค์นั้นเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อพระองค์หรือไม่ คุณรู้เรื่องนี้เกี่ยวกับพระองค์มาก่อนหรือไม่
© : Lutheran Hour Ministries