“พระองค์ทรงเยาะเย้ยคนที่มักเยาะเย้ย แต่พระองค์ทรงสำแดงพระคุณแก่คนใจถ่อม”

พระเจ้าทรงมีพระทัยกรุณาและทรงมีพระคุณแก่ทุกคน แต่พระองค์ก็มิได้ทรงละเลยที่จะเอาใจใส่ดูแลพร้อมกับการตักเตือนกล่าวโทษแก่บุคคลที่หยิ่งยโส อวดดี เอารัดเอาเปรียบ โคดโกง และมีแผนงานการกระทำอันชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระองค์ ซึ่งพระองค์จะทรงตอบสนองต่อการกระทำของพวกเขาเหล่านั้นตามที่พระองค์ทรงตักเตือนทุกคนว่า เพราะว่าพวกท่านจะพิพากษาผู้อื่นอย่างไร พระเจ้าจะทรงพิพากษาท่านอย่างนั้น และท่านทั้งหลายจะตวงให้ผู้อื่นด้วยทะนานอันใด พระเจ้าจะทรงตวงให้พวกท่านด้วยทะนานอันนั้น แล้วพวกท่านจะได้รับด้วยแบบยัดสั่นแน่นพูนล้นเต็มหน้าตักของท่าน เพราะว่าเมื่อท่านตวงให้เขาเท่าไร ท่านก็จะได้รับการตวงกลับคืนไปเท่านั้นเช่นกัน แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์

ข้าแต่พระเจ้า พระผู้ทรงมีพระทัยแห่งความเมตตากรุณาต่อข้าพระองค์ทั้งหลาย แม้ข้าพระองค์ทั้งหลายจะผิดพลาดผิดบาปสักเพียงใด พระองค์มิทรงเหยียดหยาม ดูถูกหรือเยาะเย้ยข้าพระองค์แม้สักนิดเดียว ตรงกันข้ามพระองค์กลับทรงมีพระทัยเมตตากรุณาต่อข้าพระองค์ด้วยการสำแดงพระคุณอันมากมายแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ทรงพร้อมที่จะช่วยเหลือข้าพระองค์ให้พ้นจากความทุกข์ยาก อีกทั้งยังทรงสอนพร้อมให้สัญญาแก่ทุกคนว่าผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นจะได้รับพระกรุณาจากพระองค์ ขอบพระคุณพระเจ้าในทุกๆ วันของข้าพระองค์ ขอพระเจ้าทรงเมตตากรุณานำจิตใจและการกระทำของข้าพระองค์ที่จะประกอบด้วยใจกรุณาและดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจไปกับพระองค์ในทุกๆ วันด้วยเถิด เพื่อข้าพระองค์จะได้อยู่ในพระคุณของพระองค์เสมอไป ข้าพระองค์ทูลขอต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

พระองค์ทรงเยาะเย้ยคนที่มักเยาะเย้ย แต่พระองค์ทรงสำแดงพระคุณแก่คนใจถ่อม – สุภาษิต 3:34

ชื่อ-ที่อยู่-ที่ติดต่อ

Comments are closed.