ธรรมชีวิตประจำวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2025 “โอ พระวาทะของพระเจ้าผู้ทรงสภาพเป็นมนุษย์”

“คริสตจักรจากพระองค์ พระอาจารย์ที่รักยิ่ง ได้รับของประทานของพระเจ้า และความสว่างนั้นยังคงยกชูขึ้นเหนือแผ่นดินโลกเพื่อส่องสว่าง นั่นคือแผนภูมิและเข็มทิศที่ยังคงชี้นำการเดินทางของทุกชีวิตผ่านเมฆหมอกและโขดหินและหลุมพราง โอพระคริสต์ เพื่อไปหาพระองค์

“โอ โปรดทำให้คริสตจักรของพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดที่รัก เป็นคันประทีปทองคำบริสุทธิ์เพื่อทำให้ความสว่างแท้จากโบราณกาลของพระองค์เป็นที่ปรากฎต่อหน้าบรรดาประชาชาติ โอ โปรดสอนผู้จาริกที่ท่องเที่ยวไปของพระองค์ด้วยเส้นทางนี้ที่จะติดตามไปจนกว่าเมฆหมอกและความมืดหมดสิ้นไปเพื่อให้เขาเห็นพระองค์แบบหน้าต่อหน้า”

ในปฐมกาลพระเจ้าตรัสและด้วยพระดำรัสของพระองค์ความสว่างและความมืดก็แยกออกจากกัน โดยการไม่เชื่อฟังของอาดัมและเอวา ความบาปได้เข้ามาสู่การทรงสร้างที่ดีงามของพระเจ้าและความมืดอีกแบบหนึ่งก็เติมเต็มโลก ซึ่งได้แก่ความมืดของความบาป อีกครั้งหนึ่ง ด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งพระดำรัสของพระองค์ พระเจ้าทรงทำให้ความมืดนั้นแตกสลาย เมื่อถึงเวลากำหนด พระเยซู พระวาทะที่บังเกิดเป็นมนุษย์ได้เสด็จเข้ามาในโลกใบนี้ที่มืดมนด้วยความบาป พระเจ้าตรัสกับพระบุตรของพระองค์ผู้ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ว่า “เราจะมอบให้เจ้าเป็นความสว่างแก่บรรดาประชาชาติเพื่อความรอดของเราจะถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” (อิสยาห์ 49:6ข) ม่านมืดของความบาปที่แยกมนุษย์ออกจากพระเจ้าถูกฉีกขาดลงโดยการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูบนกางเขน พระผู้ช่วยให้รอดทรงเอาชนะความมืดแห่งความตายเพื่อเปิดเผยความสว่างสุกใสที่เต็มใจต้อนรับของการยกโทษและชีวิตนิรันดร์ที่เป็นของเราผ่านความเชื่อในพระนามของพระองค์

หลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ เหล่าอัครทูตประกาศถึงการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นมาของพระองค์ คริสเตียนยุคแรกถูกข่มเหงและหลายคนหนีออกจากเยรูซาเล็ม แต่คนเหล่านั้นนำความสว่างไปกับเขาด้วยการแบ่งปันข่าวดีเรื่องพระเยซู “ฝ่ายศิษย์ทั้งหลายซึ่งกระจัดกระจายไป ก็เที่ยวประกาศพระวจนะนั้น” (กิจการ 8:4) ความสว่างส่องผ่านความมืดอย่างต่อเนื่องและบัดนี้ภารกิจของการแบ่งปันข่าวดีนั้นตกมาเป็นของเรา เช่นเดียวกับคริสเตียนยุคแรก เราคือคริสตจักรซึ่งเป็นพระกายของพระคริสต์ เราได้รับการทรงเรียกให้เป็น “คันประทีปทองคำบริสุทธิ์” ที่สาดส่องด้วยความสว่างของพระเยซู

ในความซื่อสัตย์อย่างสำนึกผิด เราต้องยอมรับว่าเราไม่ได้ส่องสว่างอย่างสุกใสอยู่เสมอเหมือนที่เราควรจะเป็น บางครั้งเราหลงไปในความมืดเช่นกันและล้มเหลวที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความสว่างและความรักของพระเยซู เราสะดุดโขดหินและตกหลุมพรางของความบาป ด้วยการติดตามความสว่างของพระเยซูผ่านพระคำของพระองค์ และในของประทานแห่งพระกายและพระโลหิตของพระองค์ในพิธีอาหารมื้อค่ำอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ เราจึงได้รับการยกโทษ เมื่อเราแบ่งปันข่าวดีและนำความสว่างของพระเยซูไปสู่บรรดาประชาชาติ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำการเพื่อทำให้ผู้คนที่ได้ยินพระกิตติคุณเกิดความเข้าใจ พระวิญญาณทรงสร้างความเชื่อในจิตใจของคนเหล่านั้น และจากนั้นเขาก็จะเริ่มแบ่งปันข่าวดีกับคนอื่นด้วยเช่นกัน ความสว่างของพระเยซูส่องสว่างเข้าไปในความมืดอย่างต่อเนื่องจวบจนวันนี้ “ความมืดหาได้ชนะความสว่างไม่” (ยอห์น 1:5ข)

เราอธิษฐาน: พระเยซู โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ส่องสว่างความรักของพระองค์ออกไปเพื่อคนอื่นจะมารู้จักและนมัสการพระองค์ในฐานะองค์พระผู้เป็นเจ้า อาเมน

คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:

  1. คุณคิดว่าความบาปดั้งเดิมของอาดัมและเอวาส่งผลกระทบต่อโลกกายภาพหรือไม่ เพราะอะไร
  2. อะไรที่เกี่ยวกับความบาปซึ่งทำให้เราคิดถึงความมืด
  3. การดำเนินชีวิตของเราที่เหมือนเป็นความสว่างของพระเยซูเป็นประโยชน์และเป็นพรกับโลกอย่างไร

© : Lutheran Hour Ministries

Comments are closed.