โรม 12:5-6ก – “พวกเราผู้เป็นหลายคนยังเป็นกายอันเดียวในพระคริสต์ และเป็นอวัยวะแก่กันและกันข้าพเจ้านั้นและเราทุกคนมีของประทานที่ต่างกันตามพระคุณที่ได้ประทานให้แก่เรา”
โค้ชบอกว่าชื่อที่ด้านหน้าเสื้อสำคัญกว่าชื่อที่ด้านหลัง แต่เมื่อข้าพเจ้าเล่นฟุตบอลสมัยมัธยม เสื้อของเราไม่มีชื่อที่ด้านหลังด้วยซ้ำ บางครั้งข้าพเจ้าก็รู้สึกไม่พอใจกับเรื่องนั้น ปกติแล้วเวลาข้าพเจ้าทำอะไรที่คิดว่าน่าจะมีคนปรบมือให้ แล้วอยากให้คนบนอัฒจันทร์ลุกขึ้นยืน ยกย่องข้าพเจ้าเหมือนรูปเคารพทองคำตัวน้อยๆ ข้าพเจ้าก็อยากให้พวกเขาเห็นชื่อข้าพเจ้าที่ด้านหลังเสื้อ แต่เวลาข้าพเจ้าทำพลาด พลาดการเข้าสกัด หรือโดนใบเหลืองจากการทำผิดกติกา หรือโดนลงโทษอะไรทำนองนั้น ข้าพเจ้าก็ยินดีเหลือเกินที่จะซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มโดยไม่เปิดเผยตัว แต่คุณไม่สามารถซ่อนตัวจากเพื่อนร่วมทีมหรือโค้ชได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีชื่อประจำตัวที่ด้านหลังเสื้อเพื่อจะตะโกนใส่คุณ และนั่นคือความงดงามของการอยู่ในทีม ทีมสามารถผลักดันเราออกจากกรอบความคิดแบบ “ข้าพเจ้าก่อน” ได้
ในบทที่ 12 ของจดหมายถึงคริสเตียนในกรุงโรม อัครสาวกเปาโลเรียกพวกเขาออกจากกรอบความคิดแบบเก่า ออกจากรูปแบบของ “ยุคนี้” หรือ “ยุคปัจจุบันอันชั่วร้าย” (ดูโรม 12:2; กาลาเทีย 1:4) เปาโลสอนว่าพระเยซูเสด็จมาเพื่อช่วยเราให้พ้นจากกรอบความคิดนี้ เพื่อให้ยาแก้พิษกับความคิดที่ว่า “ข้าพเจ้าก่อน” ท่านสรุปด้วยวลีที่ว่า “พระเมตตาของพระเจ้า” พระเมตตาของพระเจ้าพลิกรูปแบบของยุคปัจจุบันอันชั่วร้ายนี้ให้กลับคืนสู่สภาพที่ถูกต้อง พระเมตตาของพระเจ้าไม่ได้ลบชื่อของเรา พระเมตตาของพระเจ้านำเราไปสู่ที่ที่ถูกต้องและลำดับที่ถูกต้อง พระเมตตาของพระเจ้ารับรองกับเราว่าเราเป็นที่รู้จัก เราได้รับการรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทีม ได้รับการทรงเรียกและส่งออกไป
ความเมตตาคือ ทัศนคติที่มุ่งเน้นผู้อื่น เพราะพระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงให้ความสำคัญกับผู้อื่นก่อน พระเจ้าไม่ใช่คู่แข่งเพียงลำพัง พระเจ้าทรงเป็นทีมนิรันดร์ที่ประกอบด้วยสามฝ่ายคือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระบิดาทรงให้พระบุตรมาก่อน พระบุตรทรงให้พระบิดามาก่อน นี่คือจิตวิญญาณของทีมระหว่างพระองค์
การทำงานเป็นทีมเข้าถึงแก่นแท้ของความเป็นจริง ดังนั้น พระบุตรของพระเจ้าจึงทรงกลายเป็นหนึ่งในพวกเรา ทรงเข้าร่วมกับทีมของเราเพื่อประทานแนวคิดนี้ให้แก่เรา วิถีชีวิตที่เน้นผู้อื่นมาก่อนของพระองค์บรรลุถึงจุดสูงสุดด้วยการเสียสละของพระองค์เพื่อเราบนไม้กางเขน และพระองค์ทรงคืนพระชนม์จากความตายเพื่อทรงวางพระนามนี้คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ไว้ข้างหน้า
ทีมนี้ทำงานอย่างไร เพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเช้าวันอาทิตย์หนึ่ง เธอกำลังนั่งรวมอยู่กับคนค่อนข้างแน่นที่คริสตจักร และเห็นทีมพระเยซูกำลังปฏิบัติภารกิจ เธอเห็นพระกายของพระองค์กำลังทำสิ่งที่เปี่ยมด้วยความรักที่จำเป็นต้องกระทำให้เสร็จ ในสายตาของเธอวันนั้น มีทั้งการต้อนรับคนไร้บ้านก่อนการนมัสการรอบเช้า การขับรถพาคนสองคนที่ไม่มีรถไปส่งที่บ้าน การทำความสะอาดหลังพิธีมหาสนิท การให้คำแนะนำเรื่องงานแก่บัณฑิตจบใหม่ การสร้างสันติเมื่อคนทะเลาะกัน การบริจาคเงินให้ขอทาน การอุ่นอาหารกลางวันให้คนอื่น การรับมือกับเครื่องช่วยฟังที่มีปัญหาของคนหนึ่ง การอ่านพระคัมภีร์ในช่วงนมัสการรอบสาย และการหัวเราะกับมุกตลกร้ายของคนอื่น ทั้งหมดนี้ล้วนไม่สมควรได้รับเสียงปรบมือตามมาตรฐานของสนามกีฬา แต่ทีมพระเยซูมีวิธีคิดที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ใช่ไหม
เราอธิษฐาน: พระเยซูเจ้า ขอบพระคุณที่ทรงคิดที่จะรวมข้าพระองค์ไว้ในพระกายของพระองค์ ในทีมของพระองค์ อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- คุณเคยถูก “เรียก” ให้เป็นสมาชิกของทีม วงดนตรี หรือกลุ่มเมื่อใด
- คุณเห็นรูปแบบของ “ยุคนี้” (ดู โรม 12:2) แทรกซึมเข้ามาในคริสตจักรอย่างไร
- คุณมีความทรงจำที่เจาะจงเกี่ยวกับการเห็นพระกายของพระคริสต์ (คริสตจักรในชุมชน) ทำงานร่วมกันด้วยความรักหรือไม่ หากคุณจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไร
© : Lutheran Hour Ministries
