ยอห์น 6:37 – [พระเยซูตรัส] “สารพัดที่พระบิดาทรงประทานแก่เราจะมาสู่เรา และผู้ที่มาหาเรา เราก็จะไม่ทิ้งเขาเลย”
พระเยซูตรัสพระสัญญาอันน่าอัศจรรย์นี้ในแคว้นกาลิลีที่ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม พระองค์ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ในพันธกิจกับสาธารชนในดินแดนอันรกร้างและถูกทอดทิ้ง ซึ่งพลเมืองผู้หยิ่งผยองแห่งเยรูซาเล็มหลีกเลี่ยงราวกับโรคระบาด พระองค์เสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ดินแดนอันเป็นบ้านเกิดของคนเผ่าพันธุ์ลูกผสมที่น่ารังเกียจ พระเยซูทรงกระทำการอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ ทรงเทศนาสั่งสอนพระวจนะอันทรงพลังที่สุดของพระองค์
พระองค์อาจปรากฏตัวต่อหน้าซีซาร์ในกรุงโรม นักวิชาการในเอเธนส์ หรือผู้มีชื่อเสียงของคริสตจักรในเยรูซาเล็ม แต่เพื่อเน้นย้ำให้คุณและข้าพเจ้าทราบว่า พระองค์เสด็จมา “เพื่อเที่ยวหาและช่วยเหลือผู้ที่หลงหายนั้นให้รอด” (ลูกา 19:10ข) และพระองค์ทรงเป็นเพื่อนของคนบาปอย่างแท้จริง (ดู โรม 3:23) พระบุตรผู้สูงสุดทรงรับสภาพมนุษย์เพื่อเรา ทรงแสวงหาอย่างจงใจที่จะสอน ปลอบโยน และช่วยผู้ที่คนอื่นๆ อยากเมินเฉย
พระเยซูเจ้าทรงปฏิเสธที่จะล้มล้างการปกครองของโรมันแล้วทรงครองราชย์ในแคว้นกาลิลี พระองค์ทรงต้องการได้รับการยอมรับในฐานะองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งวิญญาณทั้งหลาย เป็นกษัตริย์ในอาณาจักรแห่งพระคุณของพระองค์ อาณาจักรนับร้อยซึ่งเป็นการปกครองของโลกทั้งโลกมีค่าอะไรสำหรับพระองค์หรือ เมื่อเทียบกับการช่วยกู้วิญญาณเพียงหนึ่งดวงแล้ว พระองค์ทรงแบกกางเขน ทรงคิดถึงคุณและข้าพเจ้ามากกว่าอำนาจใดๆ ที่มีอิทธิพลอยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
พระเยซูตรัสว่า “ผู้ที่มาหาเรา เราก็จะไม่ทิ้งเขาเลย” ตอนนี้บางคนจะถามว่า “เรื่องนี้จะเป็นจริงได้จริงหรือ” เมื่อนึกถึงคำสัญญาที่อาจรักษาได้ซึ่งมนุษย์นำพาผู้อื่นให้หลงผิด หรืออาจเป็นบาปของตนเองที่เป็นอุปสรรคต่อความเชื่อที่ว่า “บาปของข้าพเจ้ามีมากเกินไป ทำร้ายจิตใจมากเกินไปต่อคนที่ข้าพเจ้าควรจะรักและปฏิบัติกับเขาอีกแบบหนึ่ง พระเยซูทรงหมายความจริงๆ หรือว่าพระองค์จะไม่ขับไล่ข้าพเจ้าออกไป”
จงดูพระคัมภีร์แล้วจะเข้าใจ เปโตรสาวกผู้ใกล้ชิดของพระคริสต์หันหลังให้กับพระผู้ช่วยให้รอดในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของพระองค์ กระนั้น เมื่อท่านมาหาพระคริสต์ผู้ทรงถูกจองจำด้วยน้ำตาแห่งการกลับใจอย่างเจ็บปวด พระเจ้าทรงต้อนรับท่านและทรงตั้งท่านให้เป็นผู้เลี้ยงแกะของพระองค์ เปาโลก็เช่นเดียวกัน ขณะที่เซาโลดูหมิ่นและข่มเหงคริสตจักรยุคแรก กระนั้น เมื่อท่านเห็นพระผู้ไถ่ของท่านและมาหาพระองค์ด้วยความสำนึกผิด โดยวางใจในพระเมตตาของพระเจ้า ท่านก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กลายเป็นอัครสาวกผู้มีชื่อเสียงที่เราทุกคนรู้จักในวันนี้
แล้วใครจะลืมดาวิดได้เล่า ท่านเองที่เป็นคนบ้ามักมากเพื่อให้ได้บัทเชบา จนทำให้อุรียาห์สามีของนาง ซึ่งเป็นแม่ทัพของดาวิดถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น! กระนั้นดาวิดก็ทรงทราบถึงความบาปของตน และทรงมอบพระองค์เองต่อพระเมตตาของพระเจ้า ลองอ่านถ้อยคำสารภาพอันวิเศษของดาวิดอีกครั้งที่ว่า “ขอทรงเบือนพระพักตร์พระองค์จากบาปทั้งหลายของข้าพระองค์เสีย และทรงลบบรรดาความบาปผิดของข้าพระองค์ให้สิ้น ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงสร้างใจสะอาดภายในข้าพระองค์ และฟื้นน้ำใจที่หนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์ ขออย่าทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ไปเสียจากเบื้องพระพักตร์พระองค์ และขออย่าทรงนำวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไปจากข้าพระองค์ ขอทรงคืนความชื่นบานในความรอดแก่ข้าพระองค์ และชูข้าพระองค์ไว้ด้วยเต็มพระทัย” (สดุดี 51:9-12)
แล้วคุณไม่เห็นหรือว่าคุณจำเป็นต้องรับพระคริสต์และกางเขนของพระองค์อย่างจริงจัง จงละทิ้งความผิดพลาดและความหลงผิดของมนุษย์ที่พยายามกีดกันคุณออกจากพระผู้ช่วยให้รอด จงแสวงหาพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถทำลายการต่อต้านอันดื้อรั้นของเรา และทรงกระตุ้นเราให้เชื่อในพระบุตรของพระเจ้าในฐานะพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา
เช่นเดียวกับเปโตร เปาโล และดาวิด ขอให้คุณตั้งมั่นในพระคุณของพระเจ้าที่จะดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ดังถ้อยคำในบทเพลงสรรเสริญชัยชนะที่ว่า “ข้าพระองค์เป็นดังที่พระองค์ทรงเป็น ปราศจากการวิงวอนใดๆ เว้นแต่พระโลหิตของพระองค์หลั่งไหลเพื่อข้าพระองค์ และพระองค์ทรงนำข้าพระองค์มาหาพระองค์ โอ้ ลูกแกะของพระเจ้า ข้าพระองค์เข้ามา ข้าพระองค์เข้ามา”
เราอธิษฐาน: พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ โปรดสอนข้าพระองค์ว่า ไม่ว่าบาปของข้าพระองค์จะใหญ่หลวงเพียงใด ความรักของพระองค์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่านั้น อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- ใครบ้างที่อาจถูกมองว่าเป็นคนนอกคอกในสังคมปัจจุบัน
- พระเยซูทรงหมายความจริง ๆ ใช่ไหมว่าพระองค์จะไม่ขับไล่หรือไล่ใครก็ตามที่หันมาหาพระองค์ไป
- ความอดทนอดกลั้นของพระเยซูที่มีต่อเราเป็นแบบอย่างสำหรับเราและวิธีที่เราดำเนินชีวิตได้อย่างไร
© : Lutheran Hour Ministries
