“เมื่อท่านทั้งหลายเห็นวัวหรือแกะของพี่น้อง ของท่านหลงมาอย่านิ่งเฉยเสีย จงพาสัตว์เหล่านั้นกลับไปให้พี่น้องของท่าน”

“ของของใครใครก็หวง ของของใครใครก็รัก” ซึ่งหมายถึงการหวงแหนในสิ่งที่ตนเป็นเจ้าของ หรือสิ่งที่ตนมีสิทธิ์ครอบครอง แสดงถึงความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ และไม่อยากให้ผู้อื่นมายุ่งเกี่ยวหรือนำออกไปจากสายตาหรือออกไปอยู่นอกการดูแลของตน ยิ่งถ้าถูกพรากไปหรือถูกขโมยมาลักชิงไป ผู้เป็นเจ้าของย่อมออกติดตาม ตามหาเพื่อนำสิ่งนั้นกลับคืนมาเป็นของตนเองดังเดิม นี่คือความจริงที่ทุกคนรับรู้ แต่ยังมีความจริงอีกประการหนึ่งที่หลายคนยังไม่รู้หรือรู้แล้วแต่ไม่ได้ใส่ใจหรือให้ความสำคัญนั่นคือ มนุษย์ทุกคนเป็นของพระเจ้า มีพระเจ้าเป็นเจ้าของ พระเจ้าทรงรักและหวงแหนยิ่งนัก

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงรักและหวงแหนข้าพระองค์ทั้งหลาย ยิ่งกว่าบรรดาสัตว์ต่างๆ ที่พระองค์ทรงสร้างเพื่อให้ข้าพระองค์ครอบครองเป็นเจ้าของ และข้าพระองค์ทั้งหลายต่างก็รักและหวงแหนสัตว์ต่างๆ รวมถึงสิ่งอื่นๆ ที่พระองค์ทรงประทานให้ข้าพระองค์ครอบครองเป็นเจ้าของ ข้าแต่พระเจ้า ในเวลานี้ขอพระองค์ทรงเปิดตาใจของข้าพระองค์ที่จะทราบความจริงและเข้าใจความจริงที่ว่า พระองค์ทรงเป็นเจ้าของชีวิตของข้าพระองค์และมนุษย์ทุกคน พระองค์ทรงรักและหวงแหนสุดพระทัยของพระองค์ ขอพระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กลับไปหาพระองค์ผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงเมื่อข้าพระองค์หลงหายไปจากพระองค์ อีกทั้งขอให้ข้าพระองค์เป็นผู้ที่นำพี่น้องของข้าพระองค์ที่หลงหายจากทางของพระองค์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านพระนามของพระเยซูพระบุตรให้กลับมายังพระองค์ กลับมายังความรักและการดูแลของพระองค์ด้วยเถิด ข้าพระองค์กราบทูลต่อพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

เมื่อท่านทั้งหลายเห็นวัวหรือแกะของพี่น้อง ของท่านหลงมาอย่านิ่งเฉยเสีย จงพาสัตว์เหล่านั้นกลับไปให้พี่น้องของท่าน – เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1

ชื่อ-ที่อยู่-ที่ติดต่อ

Comments are closed.