มัทธิว 24:35-44 – [พระเยซูตรัส] “ฟ้าและดินจะล่วงไป แต่ถ้อยคำของเราจะสูญหายไปหามิได้เลย แต่วันนั้นโมงนั้น ไม่มีใครรู้ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว ด้วยสมัยของโนอาห์ได้เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นอย่างนั้น เพราะว่าเมื่อก่อนวันน้ำท่วมนั้น คนทั้งหลายได้กินและดื่มกัน ทำการสมรสและยกให้เป็นสามีภรรยากัน จนถึงวันที่โนอาห์เข้าในนาวา และน้ำท่วมมากวาดเอาเขาไปสิ้นโดยไม่ทันรู้ตัวข้าพเจ้าใด เมื่อบุตรมนุษย์จะเสด็จมาก็จะเป็นข้าพเจ้านั้น เมื่อนั้นชายสองคนอยู่ที่ทุ่งนา จะทรงรับคนหนึ่งทรงละคนหนึ่ง หญิงสองคนโม่แป้งอยู่ที่โรงโม่ จะทรงรับคนหนึ่งทรงละคนหนึ่ง เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านจะเสด็จมาเวลาไหน จงจำไว้ว่าถ้าเจ้าของบ้านล่วงรู้ได้ว่าขโมยจะมายามไหน เขาจะตื่นอยู่และระวังไม่ให้ทะลวงเรือนของเขาได้ เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมไว้ เพราะในโมงที่ท่านไม่คิดไม่ฝันนั้น บุตรมนุษย์จะเสด็จมา”
นี่คือ ภาพแห่งวันสุดท้ายที่เราไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก ช่วงเวลาที่ในสายตาของคนส่วนใหญ่ ชีวิตยังคงราบรื่นเหมือนเช่นเคย ผู้คนกินดื่ม ทำไร่ทำนา ทำขนม ทำสิ่งเดิมๆ เหมือนเดิม แล้วปัง! ทุกอย่างจบสิ้นลง พระเยซูเสด็จกลับมา ไม่ว่าพร้อมหรือไม่ โลกก็ต้องเผชิญหน้ากับพระองค์
หลังจากอ่านเรื่องนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นถึงเสน่ห์ของอีกมุมหนึ่งเกี่ยวกับวันสุดท้ายของโลก อย่างที่รู้กันดีว่ามุมมองที่พวกเขาสร้างเป็นภาพยนตร์และหนังสือขายดีนั้นน่าสนใจมาก มุมมองที่มีแต่ตัวร้ายชื่อดัง การอัศจรรย์ที่เห็นได้ชัด และแผนภูมิคำทำนายที่บอกได้อย่างชัดเจนว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อใด มุมมองที่ทำให้ข้าพเจ้าอดสงสัยไม่ได้ว่า ยังมีคนที่ไม่พร้อมสำหรับการเสด็จกลับมาครั้งที่สองของพระเยซูได้อย่างไร
แต่ตรงนี้ พระเยซูทรงบอกเราถึงวิธีการ เพราะถึงแม้ว่าทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์จะต้องสำเร็จเป็นจริง แต่ในมุมมองของคนส่วนใหญ่ ชีวิตก็ยังคงเป็นปกติ สงครามหรือ ใช่ แต่เราก็เคยมีสงครามกันมาตลอด แผ่นดินไหวหรือ ภัยพิบัติหรือ สิ่งแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ การข่มเหง ผู้คนกำลังละทิ้งความเชื่อคริสเตียน
สิ่งเหล่านั้นก็ “เป็นเรื่องปกติ” เช่นกัน
ดังนั้น เราต้องฟังพระดำรัสของพระเยซูอย่างตั้งใจ หากเราต้องการเตรียมพร้อม และอย่าคิดว่าเราจะ “รู้” ทันทีเมื่อใกล้ถึงเวลา เราจะไม่รู้เลย พระเยซูตรัสกับเราตรงๆ ว่า “ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านจะเสด็จมาเวลาไหน”
ดังนั้น พวกเราที่รักพระองค์จะทำตามที่พระองค์ตรัสไว้ โดยตั้งตารอคอยการเสด็จมาของพระองค์ และมั่นใจว่าไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด พระองค์จะทรงรับเราไว้โดยวางใจในพระองค์เป็นการวางใจในพระองค์ผู้ทรงทนทุกข์ สิ้นพระชนม์ และกลับคืนพระชนม์เพื่อทำให้เราเป็นลูกของพระเจ้า ข้าพเจ้าอยากให้พระองค์พบว่าข้าพเจ้ากำลังทำสิ่งที่พระองค์ทรงเรียกให้ข้าพเจ้าทำคือ การติดตามพระองค์ ห่วงใยประชากรของพระองค์ และบอกข่าวประเสริฐของพระเยซูแก่ผู้อื่น
เราอธิษฐาน: พระเจ้าที่รัก โปรดทรงให้จิตใจของข้าพระองค์ตั้งมั่นไว้ที่พระองค์ และขอให้ข้าพระองค์พร้อมสำหรับพระองค์ตลอดเวลา อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- ตอนเป็นเด็ก คุณเคยต้องเตรียมพร้อมในการทำการบ้านหรืองานบ้านเมื่อพ่อแม่กลับมาบ้านไหม
- ถ้าเคย เป็นอย่างไรบ้าง เพราะอะไร
- อะไรคือแรงจูงใจให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับพระเยซู ความกลัวหรือความรัก เพราะอะไร
© : Lutheran Hour Ministries
