โรม 13:11 – นอกจากนี้ท่านควรจะรู้กาลสมัยว่า บัดนี้เป็นเวลาที่เราควรจะตื่นจากหลับแล้ว เพราะว่าเวลาที่เราจะรอดนั้นใกล้กว่าเวลาที่เราได้เริ่มเชื่อนั้น
ตี 5:15 น. เป็นเวลาที่ข้าพเจ้าตั้งนาฬิกาปลุกที่เช้าที่สุดเท่าที่เคยตั้งมา ตอนนั้นข้าพเจ้าอายุสิบขวบ และข้าพเจ้าไม่มั่นใจตัวเองว่าจะตื่น ข้าพเจ้าจึงตั้งนาฬิกาปลุกอีกเรือนไว้ที่ตี 5:20 น. และมาตรการที่สาม ข้าพเจ้าเขียนโน้ตให้ตัวเองโดยเขียนขึ้นมาจากจินตนาการถึงภูเขาสีขาวระยิบระยับท่ามกลางแสงตะวัน ปกคลุมไปด้วยหิมะที่เพิ่งตกใหม่ๆ ข้าพเจ้าเขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด บวกกับเครื่องหมายอัศเจรีย์สามตัว แล้วแปะไว้ที่ด้านบนของนาฬิกาว่า “ตื่นได้แล้วไมเคิล วันนี้นายจะไปเล่นสกี!!!” ข้าพเจ้าต้องทำให้ตัวเองเห็นว่าวันนี้ต่างออกไป แต่ถึงข้าพเจ้าจะลุกจากเตียงไม่ทัน ข้าพเจ้าก็มั่นใจว่าครอบครัวคงไม่ปล่อยให้ข้าพเจ้าพลาดการผจญภัยนี้แน่ๆ พวกเขาคงจะอุ้มข้าพเจ้าไปที่รถด้วย
การคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นการปลุกให้ตื่น แต่บางครั้งเราก็มองว่านั่นเป็นความจริงที่ซ่อนเร้น อะไรคือความจริงที่ซ่อนเร้น ไม่กี่ปีก่อนข้าพเจ้ากับภรรยาซื้อที่ฝังศพ ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนสุดท้ายสำหรับร่างมนุษย์ของเรา เมื่อเร็วๆ นี้ ข้าพเจ้ากำลังดูเอกสารในตู้เก็บเอกสารแล้วเห็นโฉนดที่ดินนั้น ข้าพเจ้าคิดว่า “ใช่ เราซื้อที่ตรงนั้นมาแล้วไม่ใช่เหรอ” ทำให้รู้สึกถึงความสำคัญอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่ไม่นานก็กลายเป็นความจริงที่ซ่อนเร้น บางครั้งคริสเตียนมองว่าการคืนพระชนม์ของพระเยซูเป็นเช่นนั้น เราคิดว่า “นั่นเป็นข้อตกลงพิเศษที่พระเจ้าทรงทำเพื่อพระเยซูเมื่อนานมาแล้ว ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงวางใจว่าพระเจ้าจะทรงดูแลข้าพเจ้าหลังจากที่ข้าพเจ้าตายไปแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใด นั่นมีความสำคัญอะไรกับชีวิตประจำวันของข้าพเจ้า”
เป็นเพราะวิธีคิดแบบนี้เองที่เปาโลจึงเขียนบันทึกนี้ไว้ในพระธรรมโรม คริสเตียนในกรุงโรมปล่อยให้ความจริงเกี่ยวกับพระเยซูกลายเป็นความจริงที่ซ่อนเร้น พวกเขาไม่ได้สูญเสียความเชื่อ พวกเขาไม่ได้แช่งสาปพระคริสต์ พวกเขาไม่ได้หยุดไปคริสตจักรโดยสิ้นเชิง แต่พวกเขากำลังถูกดึงกลับไปนอนบนเตียงกับโลกอีกครั้ง และอาจเป็นเช่นนั้นสำหรับเรา เราต้องการเสียงปลุกจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อปลุกเราจากการนอนหลับ พระคริสต์ทรงคืนพระชนม์แล้ว! พระองค์ทรงปกครองอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์เหนือทุกแผนการ สักวันหนึ่งพระองค์จะเสด็จกลับมา บางทีวันนี้ เพื่อนำทุกสิ่งกลับคืนมาเพื่อพระเจ้า พระองค์จะทรงชุบชีวิตคนตาย พระองค์จะทรงสลัดความง่วงออกไปจากดวงตาของเราด้วยแสงสว่างแห่งวันใหม่ของพระเจ้า และวันนั้นก็มาถึงแล้ว นี่ไม่ใช่ความจริงที่ซ่อนเร้น แต่คือเสียงปลุกให้ตื่นสู่การผจญภัยร่วมกับพระเจ้า
เพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้าเล่าให้ข้าพเจ้าฟังเกี่ยวกับการไปเที่ยวครั้งสำคัญที่ครอบครัวของเธอเตรียมตัวจะไปตอนเธอยังเด็ก เธอตื่นเต้นกับการผจญภัยครั้งนี้ แต่ไม่ได้ตื่นเต้นกับการตื่นนอนตอนตีห้า พอถึงเวลา เธอก็คลานกลับขึ้นเตียงแล้วหลับไปอีกครั้ง เธอจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น พอลืมตาขึ้นเธอคิดว่าคงพลาดการไปเที่ยวครั้งนี้ไปแล้ว แต่กลับพบว่าเธออยู่ในรถกับครอบครัว มีคนอุ้มเธอไปขึ้นรถไปด้วย
เราอธิษฐาน: พระเยซูเจ้าที่รัก ขอให้ยามเช้านำข่าวแห่งความรักมั่นคงของพระองค์มาถึงเรา อาเมน
คำถามเพื่อการใคร่ครวญ:
- อะไรที่ช่วยให้คุณตื่นขึ้นในตอนเช้า
- มีสิ่งบ่งชี้ในชีวิตคุณบ้างหรือไม่ว่าคุณมองการคืนพระชนม์เป็นความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่
- อะไรคือการผจญภัยครั้งใหม่ที่พระเจ้าทรงเรียกคุณให้เข้าร่วมกับพระเยซู (อ่านหนังสือกิจการเพื่อหาแนวคิดนี้)
© : Lutheran Hour Ministries

