“…เพราะความเชื่อของคนนั้นพระเจ้าทรงถือว่าเป็นความชอบธรรม”

เชื่อเถิดเท่านั้น  เชื่อเถิดเท่านั้น เชื่อเท่านั้นเดี๋ยวนี้ ทรงช่วยท่านได้ ทรงช่วยท่านได้ ทรงช่วยได้เดี๋ยวนี้ นี่คือพระสัญญานิรันดร์ของพระเจ้าที่ทรงประทานแก่มนุษย์ทุกคนว่า ผู้ใดก็ตามที่เชื่อวางใจในพระเจ้าผู้นั้นจะต้องรับด้วยปากและเชื่อด้วยใจว่า พระเยซูคริสต์พระบุตรทรงเป็นพระเจ้านำไปสู่การกระทำตามการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าทุกสิ่งเริ่มต้นด้วยความเชื่อและจบลงด้วยความเชื่อ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำแต่อย่างใด เพียงแต่การกระทำดีนั้นเป็นการตอบสนองต่อพระคุณความรักที่เรามีต่อพระเจ้าผู้ที่เราเชื่อ และความเชื่อนี้เองพระเจ้าทรงเห็นว่าเป็นความชอบธรรมในสายพระเนตรของพระองค์

สรรเสริญพระเจ้าพระบิดา สรรเสริญพระเจ้าพระเยซูพระบุตร สรรเสริญพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวในความบริสุทธิ์เดียว เป็นพระเจ้าผู้ทรงชอบธรรม โดยพระองค์เองตามที่พระองค์เป็นซึ่งพระองค์เป็น พระองค์ทรงประทานความชอบธรรมแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายผ่านทางความเชื่อในพระองค์ ในความเป็นพระเจ้าองค์ตรีเอกานุภาพของพระองค์ และเพื่อไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดอวดได้ถึงการเป็นคนชอบธรรมผ่านทางความเชื่อในผู้อื่น หรือผ่านทางการกระทำใดๆทั้งสิ้นที่นับว่าเป็นความชอบธรรมนั้น ไม่มีผู้ใดสักคนเดียวที่สามารถกระทำให้ตัวเองหรือให้ผู้อื่นเป็นคนชอบธรรมได้ไม่มีเลย จึงเป็นการยุติธรรมและชอบธรรมที่สุดแก่มนุษย์ทุกคนคือ มนุษย์ทุกคนจะชอบธรรมได้ก็โดยความเชื่อในพระเจ้าองค์ตรีเอกานุภาพเท่านั้น ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เชื่อและวางใจในพระองค์ว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ชอบธรรมแต่เพียงผู้เดียว ทรงประทานความชอบธรรมผ่านทางความเชื่อวางใจในพระองค์เท่านั้น ข้าพระองค์จึงวางใจในพระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระเยซูคริสต์ และพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยสุดจิตสุดใจของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่มีพระอื่นใดนอกเหนือจากพระองค์ เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเจ้าของชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์กราบทูลพระองค์ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

…เพราะความเชื่อของคนนั้นพระเจ้าทรงถือว่าเป็นความชอบธรรม – โรม 4:5

ชื่อ-ที่อยู่-ที่ติดต่อ

Comments are closed.