“ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า”

เรื่องราวในชีวิตของมนุษย์ทุกคนมีความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือ เรื่องราวที่เกิดขึ้นและเป็นไปในชีวิตของตนเองนั้นตนเองย่อมทราบเป็นอย่างดี แม้บางเรื่องราวของตนเองนั้นไม่มีใครทราบก็ตาม  นอกจากนี้ยังมีความจริงอีกหนึ่งประการคือ ไม่มีเรื่องราวใดๆในชีวิตของมนุษย์ทุกคนที่เกิดขึ้นและเป็นไปนั้น ไม่มีสักสิ่งเดียวที่พระเจ้าไม่ทรงทราบ ถึงกระนั้นก็ตาม พระเจ้าทรงปรารถนาให้ทุกคนได้ยืนยันด้วยตนเองถึงเรื่องราวและความเป็นไปในการดำเนินชีวิตทั้งการกระทำ ความคิดและจิตวิญญาณของตนเองตามความเป็นจริงที่พระเจ้าทรงทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร เพียงแต่ปรารถนาให้มนุษย์ได้กล่าวถึงตนเองด้วยตนเองว่าเป็นจริงหรือไม่อย่างไร

พระเจ้าทรงสัพพัญญูญาณ พระองค์ทรงเห็นและทราบในทุกสิ่ง เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้สร้างในทุกสิ่งอันหมายถึงชีวิตของมนุษย์ทุกคน พระองค์ทรงมีทิพย์พระเนตร ทิพย์พระกรรณ จึงไม่มีสิ่งใดที่พระองค์จะมิทรงล่วงรู้ได้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะถูกปิดกันซ่อนเร้นไว้อย่างไรก็จะถูกเปิดเผยทั้งสิ้นโดยพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า สำหรับข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปมีความผิดพลั้งมากมาย เป็นผู้อ่อนแออ่อนกำลัง แต่โดยพระคุณความรักที่พระองค์ทรงเมตตาต่อข้าพระองค์ข้าพระองค์จึงดำเนินมาจนถึงวันนี้ได้ ขอบพระคุณพระองค์ สำหรับข้าพระองค์แล้วไม่มีสิ่งใดที่จะอวดได้นอกจากพระนามของพระองค์ เพราะทุกสิ่งในข้าพระองค์ในวันนี้และในวันข้างหน้าข้าพระองค์ก็จะขอพึ่งพาพระคุณของพระองค์เสมอไป เพราะข้าพระองค์ไม่มีสิ่งใดที่จะอวดว่าเป็นของข้าพระองค์ หรือเพราะข้าพระองค์ ข้าพระองค์บอกได้ด้วยความภาคภูมิใจคือ ทั้งสิ้นในข้าพระองค์เป็นของพระองค์แต่เพียงผู้เดียวในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า – โรม 14:12

ชื่อ-ที่อยู่-ที่ติดต่อ

Comments are closed.