ธรรมชีวิตประจำวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม 2025 “ได้รับการคุ้มครอง”

สดุดี 121:5-7 – พระเจ้าทรงเป็นผู้อารักขาท่าน พระเจ้าทรงเป็นที่กำบังที่ข้างขวามือของท่าน ดวงอาทิตย์จะไม่โจมตีท่านในเวลากลางวัน หรือดวงจันทร์ในเวลากลางคืน พระเจ้าจะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น พระองค์จะทรงอารักขาชีวิตของท่าน กษัตริย์เปอร์เซียโบราณได้รับการคุ้มครองโดยองครักษ์ส่วนตัวที่เรียกว่า “หมื่นนักรบอมตะ” แน่นอนว่านักรบเหล่านี้ไม่ได้เป็นอมตะ แต่เมื่อใดที่นักรบคนใดคนหนึ่งถูกสังหาร เหล่าทหารใหม่ก็เข้ามาแทนที่ทหารที่เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าทหารเหล่านั้นไม่ตาย เราไม่จำเป็นต้องมีองครักษ์นับหมื่นคนเพื่อปกป้องเราจากความชั่วร้าย เราต้องการเพียงผู้พิทักษ์คนเดียวที่แท้และเป็นอมตะ “พระเจ้าทรงเป็นผู้อารักขาท่าน” องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นผู้พิทักษ์ ผู้ปกป้อง และโล่ส่วนตัวของเรา พระองค์ยังทรงเป็นร่มเงาที่มือขวาของเราตามที่ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีกล่าวไว้ เราอาจไม่คิดถึงการได้รับการปกป้องจากแสงแดดมากนัก แต่ในดินแดนทะเลทราย ร่มเงาคือสถานที่แห่งความปลอดภัยของชีวิตและการพักผ่อน พระเจ้าของเราทรงมอบการพักผ่อนและการปกป้องนั้นให้แก่เรา “พระเจ้าจะทรงอารักขาท่านให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น” ในคำอธิษฐานของพระเจ้า เราขอความช่วยเหลือและการปกป้องจากพระเจ้า “ขอทรงช่วยเราให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย”…

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2025 “ท่านจงลุกขึ้น ติดอาวุธ โดยใช้คำอธิษฐาน”

“ท่านจงลุกขึ้น ติดอาวุธโดยใช้คำอธิษฐาน โอ้ คริสเตียน เพื่อไม่ให้ศัตรูทำลายท่าน เพราะซาตานได้ออกแบบการล้มลงของท่าน จงใช้พระคำของพระเจ้าซึ่งเป็นอาวุธอันเจิดจ้า ต่อสู้กับศัตรูทั้งมวลอย่างมีชัยชนะ เพราะพระเจ้าทรงปกป้องท่านจากศัตรูเหล่านั้น อย่ากลัวกองทัพแห่งนรก นี่คืออิมมานูเอล สรรเสริญพระผู้ช่วยให้รอด ศัตรูที่แข็งแกร่งยอมจำนนต่อพระคริสต์ผู้ทรงเป็นโล่ของเราและเราซึ่งเป็นผู้ชนะคือผู้ครองสนามรบ” เราคุ้นเคยกับการได้ยินข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง เรารู้เรื่องสงครามและข่าวลือเรื่องสงครามเหมือนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงทำนายไว้ บางทีเนื่องจากช่วงเวลาที่ยุ่งยากเหล่านี้ ผู้คนที่ติดตามพระเยซูอาจลังเลที่จะพูดถึงการทำสงครามของคริสเตียน มีการพูดถึงการต่อสู้มากเกินไปอยู่แล้ว แต่กระนั้นพระคัมภีร์ที่ได้รับการดลใจก็ไม่ถอยห่างจากการพูดถึงภาพของการสงครามดังกล่าว เราที่ติดตามพระเยซูอยู่ในการสงคราม นี่เป็นการต่อสู้ที่เริ่มในสวนเอเดนซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ไม่ให้การหยุดพักกับเราจนกว่าเราจะอยู่ในสันติสุขของการได้อยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราชั่วนิรันดร์ในที่สุด บทเพลงของเราเรียกร้องให้เรา “ลุกขึ้น ติดอาวุธ” บางครั้ง คริสตจักร (ซึ่งได้แก่ทุกคนที่วางใจในพระเยซูคริสต์เพื่อความรอด) ถูกอธิบายไว้ในสองวิธีการ นั่นคือ คริสตจักรที่มีชัยชนะซึ่งหมายถึงเหล่าธรรมิกชนที่ล่วงหลับไปในพระเยซู…

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2025 “การปลดปล่อยและการให้อภัย”

ยอห์น 8:34-36 – พระเยซูตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป ทาสมิได้อยู่ในครัวเรือนตลอดไป บุตรต่างหากอยู่ตลอดไป เหตุฉะนั้น ถ้าพระบุตรทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท ท่านก็เป็นไทจริง ๆ” “ไม่มีใครมาสั่งฉันได้ว่าต้องทำอะไร!” นั่นคือสิ่งที่หลายคนพูดกันทุกวันนี้ เสรีภาพคือ สิ่งที่ผู้คนต้องการ เสรีภาพที่จะคิด พูด และทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ศตวรรษที่ 20 และ 21 ทำให้เรามีความคิดว่าความเข้าใจโลกที่เพิ่มมากขึ้น และความเข้าใจที่เรามีต่อวิธีคิด พูด และการกระทำของผู้คนจะนำไปสู่วิถีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และเป็นอิสระมากขึ้น ถึงแม้จะมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมหาศาล แต่ผู้คนก็ไม่มีอิสรภาพ ตรงกันข้าม…

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2025 “เมื่อเรื่องง่ายๆ กลายเป็นบททดสอบที่ทรหด”

กันดารวิถี 14:2ก, 4, 11-12ก, 13ก, 15-16, 19 – บรรดาคนอิสราเอลได้บ่นว่า … เขาพูดแก่กันและกันว่า “ให้เราตั้งคนหนึ่งขึ้นเป็นหัวหน้า แล้วกลับไปยังอียิปต์เถิด” … และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “ชนชาตินี้จะสบประมาทเรานานสักเท่าใด แม้ว่าเราได้กระทำการอัศจรรย์สำคัญท่ามกลางเขามาแล้ว เขาทั้งหลายจะไม่เชื่อเรานานเท่าใด เราจะประหารเขาเสียด้วยโรคร้าย และตัดเขาเสียจากการสืบมรดก …” แต่โมเสสได้กราบทูลพระเจ้า “ … ถ้าพระองค์จะทรงประหารชนชาตินี้ดุจคนๆ เดียว ประเทศทั้งหลายที่ได้ยินกิตติศัพท์ถึงพระองค์จะพูดกันว่า ‘เพราะพระเจ้าพาชนชาตินี้ไปถึงแผ่นดินที่พระองค์ทรงสัญญาไว้แก่เขานั้นไม่ได้ พระองค์จึงทรงประหารเขาเสียที่ในถิ่นทุรกันดาร’ ……

Continue reading

ธรรมชีวิตประจำวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2025 “ความขัดแย้งและความสงบสุข”

ลูกา 17:11-19 – เมื่อพระองค์กำลังเสด็จไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์จึงเสด็จเลียบระหว่างแคว้นสะมาเรียและกาลิลี เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีคนโรคเรื้อนสิบคนมาพบพระองค์ยืนอยู่แต่ไกล และส่งเสียงร้องว่า “เยซูนายเจ้าข้า โปรดได้เมตตาข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด” เมื่อพระองค์ทรงเห็นแล้วจึงตรัสแก่เขาว่า “จงไปสำแดงตัวแก่พวกปุโรหิตเถิด” เมื่อกำลังเดินไป เขาทั้งหลายก็หายสะอาด ฝ่ายคนหนึ่งในพวกนั้น เมื่อเห็นว่าตัวหายโรคแล้วจึงกลับมาสรรเสริญพระเจ้าด้วยเสียงดังและกราบลงที่พระบาทของพระเยซู โมทนาพระคุณของพระองค์ คนนั้นเป็นชาวสะมาเรีย ฝ่ายพระเยซูตรัสว่า “มีสิบคนหายสะอาดมิใช่หรือ แต่เก้าคนนั้นอยู่ที่ไหน ไม่เห็นผู้ใดกลับมาสรรเสริญพระเจ้า เว้นไว้แต่คนต่างชาติคนนี้” แล้วพระองค์ตรัสกับคนนั้นว่า “จงลุกขึ้นไปเถิด ความเชื่อของเจ้าได้กระทำให้ตัวเจ้าหายปกติ” ข้าพเจ้ารู้สึกสนใจที่คนโรคเรื้อนสิบคนนี้ที่ดูเหมือนจะไปไหนมาไหนด้วยกัน แม้ว่าเก้าคนในนั้นเป็นชาวยิวและหนึ่งคนเป็นชาวสะมาเรีย เห็นได้ชัดว่าความทุกข์ทรมานร่วมกันของพวกเขาสามารถทำลายกำแพงอคติที่ปกติแยกพวกเขาออกจากกันไปได้! ซึ่งนั่นเป็นเรื่องดี…

Continue reading