“อยู่อย่างปลอดภัย” (กรุณาคลิกอ่านที่หัวเรื่อง)

บางครั้งเมื่อเรากำลังเดินอยู่ตามศูนย์การค้า หรือผ่านชุมชนแห่งความศิวิไลทั้งหลายนั้น  เราจะเกิดความรู้สึกบางอย่างแว๊บเข้ามา เป็นความรู้สึกคล้ายๆกับว่า เรากำลังเดินอยู่ท่ามกลางป่าดงดิบ ที่เต็มไปด้วยอันตรายจากสัตว์ร้ายนานาชนิด เป็นความรู้สึกที่ไม่ค่อยจะมีความอบอุ่นและปลอดภัย ต้องยอมรับวันนี้จะหาความปลอดภัยได้ยาก  ภัยสารพัดที่เป็นอันตรายเกิดขึ้นได้ในทุกเวลาทุกสถานที่ไม่เว้นแต่ละวัน แม้แต่ในย่านชุมชนที่พลุกพล่านก็ไม่มีเว้น ทั้งๆที่เราคิดว่าสถานที่นั้นๆมีความปลอดภัย แต่ภัยอันตรายก็ยังเกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน แล้วมันก็เกิดขึ้นอย่างแนบเนียนอีกด้วย ขนาดที่เราเองก็คาดคิดและตามไม่ทัน สรุปแล้วภัยอันตรายสารพัดเหล่านี้ จึงทำให้การดำรงชีวิตของเราเป็นไปด้วยความยากลำบากและหวาดระแวงซึ่งไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไร วันนี้เราจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในความไม่ประมาทเป็นดีที่สุด อะไรที่จะทำให้เราอยู่รอดปลอดภัย ก็ต้องรอบคอบไว้ก่อน    อย่าไปคิดว่าเราคิดมากและวิตกหรือกลัวเกินไป ใครเขาว่ายังไงก็ช่าง  เราถือคติ ‘’กันไว้ดีกว่าแก้’’ กันไว้ก่อนเพราะหากแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน      แล้วการป้องกันนั้นดูจะง่ายกว่า “การแก้’’ เยอะ อีกอย่างให้เราดูแลตัวเองนั้นดีกว่าไปหวังพึ่งคนอื่น ไม่ยังงั้นเวลามีอะไรเกิดขึ้น เดี๋ยวเกิดไปเจอคนประเภท…

Continue reading

“ปัญหากับชีวิต” (กรุณาคลิกอ่านที่หัวเรื่อง)

เราทุกคนคงจะมีคำถามอยู่เสมอว่า “เมื่อเจอปัญหาเกิดขึ้นไม่ว่าจะหนักจะเบาอย่างไรนั้น เราควรจะทำอย่างไร ที่จะไม่ต้องแบกปัญหานั้นไว้ตลอด” ปัญหากับมนุษย์ เป็นของคู่กัน มันเป็นเหมือนเงาตามตัวมาตั้งแต่เรารู้ความแล้ว! ตามความเป็นจริงนั้น ปัญหามีไว้เพื่อให้มนุษย์เป็นคนแก้ แต่เราจะแก้ได้หรือไม่ได้นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราทุกคนเกิดมาต่างก็มีภาระอันเป็นจุดมุ่งหมายที่จะต้องทำด้วยกันทั้งนั้น เพราะชีวิตได้ถูกกำหนดให้ก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งในระหว่างการก้าวเดินนั้น เราจะพบสารพัดปัญหา ที่จะต้องแก้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า โดยลำพังกำลังของเรา ไม่สามารถที่จะแก้ได้ทุกปัญหา ประเด็นจึงมีอยู่ว่า เมื่อเจอปัญหา เราจะมองปัญหานั้นๆ อย่างไร เราจะเริ่มต้นด้วยการมองสาเหตุของปัญหาก่อน หรือจะเริ่มมองหาวิธีแก้ปัญหา ถ้าเรายึดติดกับสาเหตุของปัญหา เราก็จะมองไม่เห็นวิธีแก้ปัญหา แล้วเราก็จะหมกมุ่นอยู่กับสาเหตุนั้น จนลืมที่จะหาวิธีแก้ปัญหา ทั้งยังจะทำให้ขาดสมาธิ…

Continue reading

“รู้แพ้… รู้ชนะ… รู้อภัย” (กรุณาคลิกอ่านที่หัวเรื่อง)

ในตัวของคนเรานั้น สิ่งดีๆก็มีเยอะ ไม่ใช่จะมีแต่สิ่งที่ไม่ดีอย่างที่เข้าใจ สิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสิ่งที่เป็นคุณสมบัติประจำตัวมาตั้งแต่เกิดก็คือ ความมีน้ำใจของการมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ที่รู้จักแพ้ รู้จักชนะ และรู้จักอภัย นี่คือคุณสมบัติของนักกีฬาทุกคน เวลาที่นักกีฬาลงแข่งขัน เขาจะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย สู้สุดฝีมือสุดกำลัง เพื่อคำว่า “ชัยชนะ” หากเขาประสบชัยชนะ ก็ต้องดีอกดีใจเป็นธรรมดา แต่ก็จะไม่ไปทับถมข่มคนที่แพ้ ส่วนคนที่แพ้ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยดี เพราะต่างก็ได้สู้กันจนสุดฝีมือแล้ว เมื่อแพ้ก็คือแพ้ มีการแข่งขันก็ต้องมีทั้งคนที่ชนะและที่แพ้ หลังจากนั้นก็ต้องฝึกฝนพัฒนาฝีมือกันต่อไป เพื่อจะได้ชัยชนะในครั้งต่อไป ส่วนในการแข่งขันหากจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างก็ต้องถือว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่การแข่งขันย่อมจะมีบ้างเป็นธรรมดา จบก็คือจบ ไม่ได้มาถือโทษโกรธเคืองอะไรกันอีก ต่างคนก็ต่างให้อภัยกัน แล้วก็เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน นี่คือน้ำใจนักกีฬาทุกคน…

Continue reading