ในวัยเยาว์อารมณ์ของคนวัยนี้ค่อนข้างที่จะมีความอ่อนไหวมาก ทั้งยังเปิดรับอะไรต่อมิอะไรได้มากมายโดยไม่จำกัดอีกด้วย สรุปแล้วก็คือ เป็นวัยที่มีความอ่อนไหวง่ายเหลือเกิน หากว่ามีความเศร้าหรืออะไรมากระทบอันเป็นความโศกสลด คนในวัยนี้จะสะเทือนใจมากเป็นพิเศษ
ต้องระวังอย่าให้อารมณ์ติดลบเกิดขึ้นกับคนในวัยนี้นานๆ เพราะคนในวัยเด็กยังไม่สามารถแยกแยะอะไรได้เหมือนผู้ใหญ่ ถ้าหากเขาคิดไปในแง่ลบเมื่อไร สิ่งนั้นๆ จะฝังใจที่กลายเป็นหลักของความเข้าใจในเชิงลบไปตลอดชีวิตของเขาได้
ตามความเป็นจริงนั้น มนุษย์ไม่สามารถคิดในสองด้านพร้อมๆ กันได้ แต่หากทำได้ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเราเองด้วย ดังนั้น หากคุณเกิดความคิดในแง่ลบเมื่อไร ต้องรีบคิดในแง่บวกพร้อมๆ กันไปด้วย ทำจนกลายเป็นนิสัย ฉะนั้น เมื่อใดที่คิดลบให้คุณคิดอย่างนี้ว่า คุณจะสามารถมองอีกแบบหนึ่งได้ด้วยการเปลี่ยนความคิดให้เป็นมุมมองบวกไปพร้อมๆ กันด้วย
แต่ที่สำคัญต่องฝึกที่จะหันความคิดในในทางด้านบวกไว้เสมอ เพราะการคิดบวกจะช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีๆ ให้กับเรา ตรงกันข้ามกับการคิดลบจะทำให้เกิดเสียความรู้สึก และเมื่อเก็บความรู้สึกไม่ดีไว้จนส่ำสมมาก และนานๆ เข้าก็จะกลายเป็นอันตรายที่เปลี่ยนความคิดของเราให้กลายเป็นคนที่มุมมองในด้านลบเป็นหลักไปในที่สุด
คนที่มีธรรมชาติแห่งการคิดลบ มักจะเป็นคนจริงจังกับชีวิตจนเกินไป ทุกอย่างที่มีอยู่ในความคิดล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกหวาดระแวง ไม่มีความมั่นใจ ไม่มีความวางใจ แม้แต่ตัวเองก็พลอยขาดความไว้วางใจและความมั่นใจไปด้วย คนที่มีมุมมองในแง่ลบชีวิตจะหาความสุขได้ยาก
ส่วนคนที่มีความคิดบวกเขาจะมองสถานการณ์และคิดไปตามความเป็นจริง เพื่อแก้ไขให้ทุกอย่างดีขึ้น เช่น เมื่อเห็นคนพลาดพลั้งในชีวิต มุมมองของเขาก็คือ คนๆ นั้นจะต้องลุกขึ้นได้อีกครั้ง ด้วยการให้โอกาสเพื่อเขาจะพบความสำเร็จเหมือนคนอื่นๆ ได้
วันนี้เราต้องหันมาช่วยกันสร้างธรรมชาติแห่งการคิดบวก เพื่อเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความสุขให้แก่เรา ด้วยการหยั่งรากของความเป็นคนคิดบวกให้เกิดขึ้นในจิตใจของเราทุกคน ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนกระทั่งกลายเป็นธรรมชาติของเรา แล้วคุณจะเป็นคนที่มีความสุขจากการคิดบวกในทุกสถานการณ์ของชีวิต
โดย: อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง
