คุณเคยเหงาบ้างไหม? แน่นอนทุกคนก็เคยเหงาและคุ้นเคยความเหงา ด้วยกันมาแล้วทั้งนั้น ความเหงาเป็นอยู่คู่กับมนุษย์มานานแล้ว ตั้งแต่บรรพกาลจนถึงปัจจุบันกาล ทุกชีวิตเกิดมาก็เจอทันที เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของทุกคน ความเหงาเกิดกับทุกเพศทุกวัย จะเป็นเด็กหรือหนุ่มสาวคนชรา ต่างก็เจอและผ่านความเหงามาแล้วทั้งนั้น
ต้องยอมรับว่า ทุกครั้งที่เราเกิดความเหงา มันบั่นทอนความรู้สึกที่ทำให้เกิดความอ้างว้าง เวิ้งว้าง โดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยว เหมือนกับว่าเราถูกปล่อยไว้กลางทะเลทราย หรือกำลังล่องลอยอยู่กลางท้องทะเล ที่มองเห็นแต่พื้นน้ำจรดแผ่นฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่เราถูกทอดทิ้งไว้เพียงลำพังคนเดียว เผชิญกับปัญหาที่ต้องขบคิด จนเกิดความท้อแท้ หมดหนทางออกอย่างคนสิ้นหวัง และจะยิ่งหนักเข้าไปอีก ถ้าหากเราเก็บตัวอยู่คนเดียวเงียบๆ ตามลำพัง เพราะขาดเพื่อนไร้มิตรคอยปลอบใจ ยามที่เกิดความเหงาอย่างนี้ ต้องระวังอย่าให้มันแทรกเข้ามาในความคิดใดๆของเรา จนทำให้คุณเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ กลายเป็นคนคิดมากว่าคุณถูกทอดทิ้ง ปราศจากคนเหลียวแลและเข้าใจคุณ
แม้ว่าความเหงาที่เกิดกับคุณจะไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เกิดความปวดร้าวก็ตาม แต่ก็จะทำให้ขาดความสุข จะมีแต่ความหดหู่ หม่นหมอง เศร้าใจ ที่เต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว ขาดที่พึ่งไม่มีใครสนใจ จะระบายความเหงากับใครก็ไม่มีใครเลย มองไปทางไหนก็ปราศจากคนสนใจดูแล สุดท้ายก็นำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดๆ หนักเขาก็หันไปหาสิ่งเสพติด ดับความเหงา ถ้าใครมาถึงจุดนี้เมื่อใด อนาคตและชีวิตจะเดินไปสู่ความมืดมนทันที!
ดังนั้นเมื่อเจอความเหงา ต้องรีบหาทางดับความเหงา อย่าให้มันเข้ามาครอบงำคุณได้ ถ้าจะคิดว่ามันเป็นเพียงสิ่งที่เกิดประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็จะหายไปเท่านั้น เป็นความคิดและเข้าใจผิด ความเหงาแม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยก็ตาม แต่หากปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยๆ มันจะกลายเป็นตัวทำลายความสุขให้ลดน้อยลงไป จนไม่เหลือความสุขไว้ให้คุณเลย
คนที่มีพระเยซูคริสต์อยู่ในชีวิต เขาจะไม่กลัวหรือวิตกกังวลต่อความเหงา เพราะตราบใดที่เขามีสันติสุขในชีวิตอยู่แล้ว สิ่งนี้คือหลักประกันว่า ความเหงาจะไม่สามารถครอบงำชีวิตของเขาได้ ทุกครั้งที่เหงา สันติสุขของพระเจ้าจะคอยคุ้มครองภายในจิตใจของเขา ให้เกิดความอบอุ่น และความหวังอยู่เสมอ เพราะพระเยซูคริสต์ทรงสัญญาไว้แล้วว่า “ อย่าให้ท่านทั้งหลายวิตกเลย ท่านวางใจในพระเจ้า จงวางใจในเราด้วย และเราจะไม่ทิ้งท่านทั้งหลายให้เปล่าเปลี่ยว.. ”
โดยคำสัญญาดังกล่าวนี้ ผู้ที่อยู่ใต้ร่มพระคุณและความรักของพระเจ้า จะต้องไม่ตกเป็นทาสของความเหงา เพราะพระองค์จะทรงอยู่เคียงข้างเขาอยู่เสมอ โดยมีสันติสุขของพระเจ้าช่วยเป็นเกราะป้องกันความเหงา ไม่ให้มาทำลายความสุขของเขาอีกต่อไป
โดย : อาจารย์อำนวย เรืองชาญ
นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”
องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง
