“ต้องเชื่อมั่นต่อตนเองเสมอ” (กรุณาคลิ๊กอ่านที่หัวเรื่อง)

คนที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือประสบความสำเร็จช้า เพราะขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เช่นบางคนเกิดในครอบครัวที่มีพี่น้องเรียนเก่ง พี่คนโตเรียนแพทย์ น้องเรียนสถาปัตย์ ส่วนตัวเองเรียนบัญชี ก็เลยคิดว่าตัวเองนั้นเรียนไม่เก่ง สู้พี่ๆน้องๆไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น

ส่วนบางคน พ่อแม่ได้ตั้งความหวังเอาไว้สูง อยากให้เรียนสายวิทย์ อย่างน้อยก็จะได้เป็นหมอหรือวิศวะกร แต่ลูกเองกลับไปชอบด้านศิลปะ ไม่มีหัวด้านคณิตศาสตร์หรือสายวิทย์เลย เพราะคิดว่าตัวเองไม่เก่ง พ่อแม่ก็ต้องผิดหวังไปอย่างนี้เป็นต้น บางคนพอได้ทำงาน โดนหัวหน้าตำหนิบ่อยๆก็บอกตัวเองว่า ก็เพราะเรามันไม่เก่งเหมือนคนอื่น เหล่านี้คือสาเหตุทั้งหลาย ที่ทำให้เราขาดความเชื่อมั่นและเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง หรือบางครั้งอาจจะมาจากคำพูดของคนที่พูดถึงเราในแง่ลบ ก็เลยทำให้เสียความมั่นใจและขาดความเชื่อมั่นในตัวเองไป ผลที่ตามมาก็ทำให้ถึงกับเสียใจน้อยใจ และเกิดความโกรธฝังใจ ที่ตอกย้ำความรู้สึกอยู่เสมอว่า “ เรามันไม่เก่ง ไม่ฉลาด สู้คนอื่นไม่ได้ ” หรือบางคนก็เอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่นที่หล่อที่สวยที่รวยกว่า แล้วก็สรุปว่าตัวเองนั้น สู้คนเหล่านั้นไม่ได้ ด้อยกว่าคนอื่น สุดท้ายก็ขาดความมั่นใจไป

ลองคิดดู หากคนทำงานในที่เดียวกัน อายุของงานใกล้เคียงกัน คนหนึ่งขี้อายไม่กล้าแสดงความคิดเห็น แต่อีกคนหนึ่งตรงกันข้าม กระฉับกระเฉง พูดจาฉาดฉาน ยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกๆคน แล้วความสามารถก็อยู่ใกล้เคียงกัน ถามว่าใครจะได้รับการโปรโมทก่อนกัน แน่นอนโอกาสก็ต้องเป็นของคนหลังไม่มีปัญหา อย่าลืมว่าโอกาสมักจะวิ่งเข้าไปหาคนที่มีความมั่นใจในตัวเองก่อนเสมอ

คนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง เวลาเข้าสังคมก็จะแอบๆ หลบๆไม่ค่อยกล้าพูดจาปราศรัยกับใคร จะพูดก็พูดเบาๆ ไม่กล้าสบตา พูดจาก็ไม่มีอารมณ์ เดินก็โยกเยกไม่มั่นคง เห็นแค่บุคลิกภายนอกก็รู้ทันทีว่า เป็นคนไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ดังนั้นเราต้องพัฒนาความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับตัวเองให้ได้ อย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะเอกลักษณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ให้มั่นใจว่าเรานั้นก็มีดีเหมือนกัน คนที่ประสบความสำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่งเสมอไป คนจบ ป.4 ที่รวยกว่าคนจบปริญญาก็มีมากมาย ถึงคุณจะเก่งสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะประสบความสำเร็จไม่ได้ ต้องเชื่อมั่นตัวเองก่อน แล้วคุณจะทำได้สำเร็จ เวลาที่ขาดความมั่นใจ ให้นึกถึงความสำเร็จที่คุณเคยทำมาก่อน อย่างน้อยก็จะช่วยเรียกความเชื่อมั่นใจให้กลับมาได้ คิดและพูดด้านบวกให้กำลังใจตัวเอง ทำตัวให้กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวา เมื่อกายใจประสานเป็นหนึ่งเดียว ก็จะเกิดพลังบวก จนคุณมีความเชื่อมั่นและมั่นใจอีกครั้ง ความกระตือรือร้น ก็ทำให้ใจกระตือรือร้นไปด้วย ส่วนกายเฉื่อยใจเฉื่อย ความเชื่อมั่นและความมั่นใจก็เฉื่อยไปด้วย เริ่มฝึกตามที่กล่าวมานี้ เพื่อนำความเชื่อมั่นกลับมา แล้วคุณจะเดินไปสู่ชีวิตที่ประสบความสำเร็จได้เพียงแค่เอื้อม

โดย : อาจารย์อำนวย  เรืองชาญ

นักจัดรายการวิทยุ “เพื่อคุณกำลังใจ”

องค์การก้าวไปสู่ความสว่าง

 

Comments are closed.